มติปปช.ไม่ตอบโต้ยิ่งลักษณ์คดีข้าวจ่อชงศาลฎีกาเอง

ป.ป.ช. มีมติไม่ออกคำชี้แจง หรือแถลงการณ์ตอบโต้ 'ยิ่งลักษณ์' คดีโกงข้าว คาด ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาส่งฟ้องสัปดาห์หน้า

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า วันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่ออกคำชี้แจง หรือแถลงการณ์ตอบโต้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริง คดีอาญาการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ใน 7 ประเด็น เนื่องจากเห็นว่าการออกมาตอบโต้ หรือโต้แย้งไปมาจะเกิดประเด็นขัดแย้งในสังคมได้ ซึ่งกระบวนไต่สวนข้อเท็จจริงต่างๆ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. สิ้นสุดแล้ว และได้ดำเนินการตามกรอบของกฎหมายอย่างดีที่สุดตามอำนาจหน้าที่ โดยขั้นตอนต่อไปอยู่ในกระบวนการของอัยการสูงสุดพิจารณาส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งคาดว่า จะสามารถส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุดพิจารณาส่งฟ้องได้ในสัปดาห์หน้า ภายในกรอบระยะเวลา 15 วัน นับตั้งแต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ทั้งนี้ หากอัยการสูงสุดมองว่า สำนวนคดียังมีข้อไม่สมบูรณ์ ก็จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาร่วมกันตามกรอบกฎหมาย และหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อสำนวนคดีสมบูรณ์ที่สุด

นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า หากอัยการสูงสุดมีมติไม่ส่งฟ้อง ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็จะพิจารณาว่า จะส่งฟ้องเอง หรือ ตั้งทนายความดำเนินการฟ้องคดีต่อไป และในส่วนของมูลค่าความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ขาดทุนกว่า 500,000 ล้านบาทนั้น รวมอยู่ในองค์ประกอบพยานหลักฐานของสำนวนคดีที่ ป.ป.ช. ส่งอัยการสูงสุดไปแล้วว่า ได้สร้างความเสียหายให้ภาครัฐ จึงขึ้นอยู่ที่อัยการสูงสุดจะส่งศาลแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายคืนให้ภาครัฐหรือไม่และจำนวนเท่าไหร่

 

มติป.ป.ช.ร่วมอัยการสอบพยานคดีไร่ส้มเพิ่ม3ปาก

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด กับ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีมติเรียกสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม จำนวน 3 ปาก ในคดี นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนและการบริการลูกค้า นักกลยุทธ์การตลาด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับพวกปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีช่วยเหลือบริษัท ไร่ส้ม จำกัด โฆษณาเกินเวลาที่กำหนดในสัญญาโดยไม่เรียกเก็บเงินค่าโฆษณาเกินเวลานาน 1 ปี 4 เดือน จำนวนเงินกว่า 138 ล้านบาท และต่อมาได้ทำการแก้ไขใบคิวโฆษณาดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เป็นเหตุให้ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้รับความเสียหาย และกรณีกล่าวหา นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการผู้จัดการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด กับพวก สนับสนุนการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยคาดว่า จะสอบพยานทั้งหมดเสร็จภายในวันที่ 25 ก.ค.นี้ หลังจากนั้น คณะทำงานร่วมจะพิจารณาหาข้อยุติเกี่ยวกับการดำเนินการพิจารณาคดี ซึ่ง หากอัยการสูงสุด เห็นว่าพยานหลักฐานสมบรูณ์ อัยการสูงสุด ก็จะฟ้องคดีต่อไป แต่หากหาข้อยุติไม่ได้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจฟ้องคดีเอง หรือแต่งตั้งทนายความ ให้พิจารณาคดีดังกล่าวแทนอัยการสูงสุด