กต.รายงานคืบหน้าช่วยคนไทยในอิสราเอล

ทางการไทยจี้อิสราเอล ช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ปะทะ เน้น 17 แห่ง ใกล้ฉนวนกาซา

กระทรวงการต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการช่วยเหลือแรงงานไทย ในพื้นที่สู้รบฉนวนกาซาระหว่างกองทัพอิสราเอลและปาเลสไตน์ ในพื้นที่นิคมเกษตรกรรมติดกับฉนวนกาซา 17 แห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยอันดับต้น ๆ โดยระบุว่า ฝ่ายกงสุลและฝ่ายแรงงานของสถานเอกอัครราชทูตเทลอาวีฟ ได้ย้ายแรงงานไทย ออกจากพื้นที่แล้ว 82 ราย มี 21 ราย เปลี่ยนใจขออยู่ต่อ และอีก 13 ราย กำลังรอการช่วยเหลือ จากที่มีความจำนงขอย้ายออกทั้งหมด 116 ราย

ทั้งนี้ อิสราเอลยืนยันว่า การย้ายงานไปที่อื่นชั่วคราวตามที่จัดเตรียมไว้ จะได้รับเงินค่าจ้างที่ค้างอยู่แน่นอน และจะได้รับค่าจ้างในการทำงานที่ใหม่ตามกฎหมายกำหนด ขณะเดียวกันทางการไทย กำลังหารือกับอิสราเอลในส่วนของเงินชดเชยการหยุดงานด้วย

ส่วนแรงงานที่ยังทำงานที่เดิม ใกล้กับฉนวนกาซา ทางการไทยได้ขอความร่วมมือจากนายจ้าง ให้อนุญาตแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ หยุดงานได้ชั่วคราวหรือลากลับไปพักที่ประเทศไทยได้ (อินเตอร์วีซ่า) พร้อมขอให้อิสราเอลสร้างที่หลบภัยเพิ่มในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณฉนวนกาซา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้แก่แรงงานไทย

อย่างไรก็ตาม มีรายงานพบว่า สาเหตุที่แรงงานไทยบางส่วนไม่ย้ายออกจากพื้นที่ เนื่องจากกลัวว่าจะต้องย้ายไปอยู่สถานที่ลำบากกว่าเดิม เช่น อากาศร้อน แห้งแล้ง เป็นต้น แม้ว่าเขตพื้นที่ใหม่จะเสี่ยงภัยจากการโจมตีด้วยจรวดน้อยกว่าก็ตาม กลัวจะไม่ได้รับค่าจ้างจากนายจ้างคนปัจจุบันหากย้ายออกไป และกลัวว่าหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ นายจ้างปัจจุบันจะไม่รับกลับเข้าทำงานที่เดิม อีกทั้งกลัวเพื่อนคนไทยที่ไม่ย้ายออกจะนินทา สุดท้ายคือความกลัวในการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ ต่อความกังวลต่าง ๆ ข้างต้น สถานเอกอัครราชทูตฯ และฝ่ายแรงงานจะได้พยายามชี้แจงและทำความเข้าใจกับแรงงานไทยดังกล่าวต่อไป