8น.ศ.ไทยในลิเบียถึงสุวรรณภูมิ-กต.เร่งอพยพแรงงาน

นักศึกษาไทยในลิเบียกลุ่มแรก 8 คน เดินทางถึงสุวรรณภูมิแล้ว ขณะที่ หน.คสช. ห่วงคนไทยในลิเบีย กำชับฝ่ายความมั่นคง เร่งดำเนินการประสานช่วยเหลือเดินทางกลับโดยเร็วที่สุด ด้าน ปลัด กต. เร่งอพยพแรงงาน

พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมงานโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า หัวหน้า คสช. ยังคงห่วงกลุ่มคนไทยที่อยู่ ในประเทศลิเบีย ซึ่งมีทั้งนักศึกษาและแรงงาน โดยได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลและอำนวยการในเรื่องนี้อย่างดีที่สุด ซึ่งล่าสุด นักศึกษากลุ่มแรกจำนวน 8 คน เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว ทันทีที่มาถึง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คงจะเข้าดูแลแลเยียวยาให้เป็นลำดับแรก ในส่วนคนไทยที่เหลือ ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็คงจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป โดยเฉพาะกับคนไทยที่มีความประสงค์จะขอกลับประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดให้มีการตั้งสำนักงานให้ความช่วยเหลือตามเมืองต่างๆ ในหลายพื้นที่ โดยรอบประเทศลิเบีย เพื่ออำนวยความสะดวกดูแลประสานงานและดำเนินกรรมวิธีเกี่ยวกับการเข้า-ออกเมือง ตั้งแต่พื้นที่ทางตอนในของประเทศลิเบีย ไปจนถึง การส่งกลับประเทศไทย โดยทาง หัวหน้า คสช. ได้มีการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

 

8 น.ศ.ไทยในลิเบียกลับถึงไทยแล้ว

ล่าสุดที่ผ่านมา นักศึกษาไทย จำนวน 8 คน ที่ไปศึกษาต่อยังประเทศลิเบีย ซึ่งได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร แล้วเมื่อเวลา 12.25 น. ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 384 ประกอบด้วย นายอาหามะ เจ๊ะมะ, นายอับดุลเลาะห์ เจ๊ะอุบง, นายเอลวานุดดิน เจ๊ะและ, นายอามินุดดิน มามะ, นายอัฟดอล ปันนพภา, นายมานพ เรืองพจน์, นายคณิต วงสันต์ และ นายอาลี ยีมาวิละ โดยมีเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ต้อนรับนักศึกษาไทยที่บริเวณห้องรับรองภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางออกจากห้องรับรอง ภายหลังได้พบและพุดคุยกับทางเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร เมื่อเวลา 13.50 น.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บรรยากาศที่จุดนัดพบ ภายนอกอาคารผู้โดยสารขาเข้า โดยมีญาติของนักศึกษาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกับมีสื่อมวลชนเกาะติดการเดินทางกลับมาของนักศึกษาไทยจากประเทศลิเบียอีกด้วย

 

ครอบครัวนศ.ไทยในลิเบียขอบคุณจนท.ดูแลสะดวก

นายประสาน ปานนพภา บิดาของ นายอัฟดอล ปานนพภา นักศึกษาไทย 1 ในจำนวน 8 คน ที่ได้ทางกลับจากประเทศลิเบีย ได้เดินทางมารับลูกชาย พร้อมด้วยภรรยา และลูกชายอีกหนึ่งคน เปิดเผยว่า ลูกชายได้เดินทางไปศึกษาด้านศาสนา ที่กรุงตริโปลี เป็นเวลา 1 ปีแล้ว การเดินทางกลับครั้งนี้ ทำให้ครอบครัวมีความอุ่นใจด้านของความปลอดภัย พร้อมกับได้มีการขอบคุณไปยังเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานทุกส่วน ที่ได้มีการดำเนินการในการประสานงาน เรื่องการเดินทางกลับนักศึกษาไทยในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าภายหลังเมื่อสถานการณ์ในประเทศลิเบีย จบลง และเข้าสู่สถานการณ์ความสงบเรียบร้อย ก็จะอนุญาตให้เดินทางกลับไปศึกษาต่อ

ทั้งนี้ นายประสาน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ครอบครัวได้ส่งลูกสาวไปเรียนที่กรุงไคโร ซึ่งขณะนี้ ลูกสาวก็สำเร็จการศึกษาแล้ว เมื่อครั้งที่ลูกสาวศึกษาที่ประเทศลิเบีย ก็เคยมีเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันมาแล้ว และถูกส่งตัวกลับมาเช่นกัน

 

น.ศ.ไทยจากลิเบียขอบคุณสถานทูตช่วยเหลือกลับบ้าน

นายอัฟดุลเลาะห์ เจ๊ะอุบง เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ได้ไปศึกษายังวิทยาลัยดวะอิสลามมิยะ ที่กรุงตริโปลี เป็นเวลากว่า 1 ปีครึ่ง โดยที่ผ่านมา มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นใกล้กับมหาวิทยาลัย ประมาณ 5 กิโลเมตร โดยได้ย้ายมาพักอยู่ที่สถานทูตไทย ที่กรุงตริโปลี ได้ 2-3 วัน ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ส่วนตัวต้องขอบคุณสถานทูตที่ให้การช่วยเหลือ และจากนี้ ก็จะเดินทางไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณพ่อบุญธรรม ก่อนประเมินถึงสถานการณ์ ก่อนกลับไปศึกษาอีกครั้ง

ด้าน นายอามินุดดิน มามะ อายุ 19 ปี เปิดเผยว่า สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง และยังคงมีนักศึกษาไทย ที่ยังไม่ได้เดินทางกลับอีกจำนวนหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ได้พักอยู่ในมหาวิทยาลัย ภายหลังจากได้รับการช่วยเหลือจึงมาพักอยู่ที่สถานทูตไทย ในกรุงตริโปลี ทั้งนี้ให้เหตุผลว่า ครอบครัวเป็นห่วงถึงสถานการณ์ความปลอดภัย และอยากให้เดินทางกลับ หลังจากนี้คาดว่า สถานการณ์สงบลง จะเดินทางกลับไปศึกษาต่อดังเดิม

 

'สมพล' เข้ารายงานตัว สนช. 4 ส.ค.

นายสมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. และรองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ตนเองจะเดินทางเข้ารายงานตัวที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 เวลา 13.00 น. ส่วนเรื่องวาระที่จะมีการหารือนั้น คาดว่าทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้เตรียมข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่วนตัวเองจะเสนอให้มีการพิจารณากฎหมายต่างๆ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ

อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ส่วนตัวมองว่าควรใช้สถานการณ์เป็นฐานพิจารณาว่า ในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้บุคคลใดที่เหมาะสมจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ซึ่งส่วนตัวมองว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีความเที่ยงตรง ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับ และส่วนตัวมีความเห็นด้วยกับผลสำรวจหลายสำนักที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ::

รอรับ 8 น.ศ.ไทยกลับ -ปลัดกต.เร่งอพยพแรงงาน

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=555876