ชาวมอญสังขละ โวย ผู้ว่าฯใช้งบ 16 ล้าน ซ่อมสะพาน 1 ปี ไม่คืบ ขอดึงมาทำกันเอง

ชาวมอญสังขละ โวย ผู้ว่าฯใช้งบ 16 ล้าน ซ่อมสะพาน 1 ปี ไม่คืบ ขอดึงมาทำกันเอง

ชาวมอญสังขละ โวย ผู้ว่าฯใช้งบ 16 ล้าน ซ่อมสะพาน 1 ปี ไม่คืบ ขอดึงมาทำกันเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เรียกร้องขอซ่อมแซมสะพานไม้มอญกันเอง หลังผู้ว่าฯ ดึงงานไปทำภายใต้งบประมาณ 16 ล้านบาท แต่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยสะพานดังกล่าวถูกท่อนซุงจากน้ำป่าซัดขาดเมื่อเดือนกรกฎาคม เมื่อปีที่ผ่านมา

ความคืบหน้าการซ่อมแซมสะพานไม้มอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่ถูกท่อนซุงจากน้ำป่าซัดถล่มจนขาด เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ปีที่แล้ว ที่ครบกำหนดสัญญาในวันนี้ (6 ส.ค.57) นั้น ล่าสุด ! น.ส.อรัญญา เจริญหงส์ษา เลขานายกเทศมนตรีเทศบาลต.วังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ชาวไทยเชื้อสายมอญต้องการที่จะซ่อมแซมสะพานมอญกันเอง หลังจากทางจังหวัดได้ว่าจ้างทำสัญญากับห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ซ่อมแซมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ วงเงิน 16,347,000 บาท แต่ไม่มีความคืบหน้าจนจะครบกำหนดสัญญาจ้าง 120 วัน วันที่ 6 ส.ค. นี้

น.ส.อรัญญา กล่าวอีกว่า ชาวบ้านต้องการซ่อมแซมสะพานมอญในรูปแบบเดิมเช่นที่ผ่านมา คือ ต้องการลงมือซ่อมแซมกันเอง เพราะสะพานแห่งนี้เกิดจากแรงศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อหลวงพ่ออุตตมะ แต่เมื่อเป็นการดำเนินการโดยผู้รับเหมา จึงทำให้สะพานที่เดิมเป็นสมบัติส่วนรวม กลายเป็นของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไป อีกทั้งยังทำลายความศรัทธา ความผูกพัน และวิถีชีวิตของคนที่นี่ลงอย่างสิ้นเชิง การที่ผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมสะพาน ไม่ได้ทำให้ความสามัคคีของคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือแรงจิตศรัทธาที่อยู่ในสะพานไม้ต่างหากที่มันเปลี่ยนไป 100%

ทั้งนี้ หลังจากครบรอบ 1 ปี ที่สะพานอุตตมานุสรณ์ พังเสียหายแต่การซ่อมแซมไม่คืบหน้า ทำให้ชาวกาญจนบุรีต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์การบูรณะซ่อมแซมสะพานมอญกันอย่างหนัก และได้มีกลุ่มคนเมืองกาญจน์ ตั้งแฟนเพจ เฟซบุ๊ก ขึ้นมาใช้ชื่อว่า "สะพานมอญ โมเดล" https://www.facebook.com/sangkraburiwoodbridge ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามเกี่ยวกับสะพานมอญ ซึ่งความเห็นส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจในการดำเนินการของจังหวัด ที่ดึงเอาเงินบริจาคจากองค์กรและผู้มีจิตศรัทธาเข้าไปอยู่ในระบบราชการ ทั้งที่ผู้บริจาคตั้งใจทำบุญให้วัดวังก์วิเวการาม เพื่อนำไปบูรณะซ่อมแซมสะพาน


ด้านนายกาศพล แก้วประพาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การทำสัญญาว่าจ้างยึดระเบียบราชการเป็นหลัก เพราะเป็นห่วงเรื่องความโปร่งใสโดยการใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุทางราชการ ซึ่งเป็นการป้องกันการทุจริต โดยระหว่างการซ่อมแซมทราบว่าทางบริษัทมีการแสวงหาไม้ ซึ่งในพื้นที่ จ.กาญจนบุรีไม่มี ทางบริษัทจำเป็นต้องไปนำไม้จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและต้องเป็นไปตามแบบที่กำหนดไว้ คือ ไม้แต่ละท่อนจะต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร ยาว 8 เมตร ขณะนี้งานโครงสร้างพื้นฐาน ฐานราก ทำได้ระดับหนึ่งแล้ว หากสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้สำเร็จ โครงสร้างด้านบนก็จะสามารถทำได้ง่ายขึ้นถึงแม้จะมีฝนตกลงมาบ้างก็ตาม

ส่วนงบประมาณการซ่อมบูรณะค่อนข้างสูงนั้นขอชี้แจงว่าอดีตที่ผ่านมาสะพานแห่งนี้เคยเสียหายมาแล้วแต่ไม่ใช่เป็นการพังถล่มลงมาเหมือนครั้งนี้ เพียงแค่การเสื่อมสภาพของไม้ที่มีอายุการใช้งานนานหลายปีเท่านั้น และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบูรณะอยู่ที่ประมาณ 5-6 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบความเสียหายต่างกันสิ้นเชิง ประกอบกับทางจังหวัด ก็ต้องการให้บริษัทคู่สัญญานำไม้ ที่ได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาซ่อมบูรณะสะพานเท่านั้น ห้ามนำไม้ผิดกฎหมายมาซ่อมเด็ดขาด ซึ่งการนำไม้เข้ามาครั้งแรกทางจังหวัดยังชมผู้รับจ้างว่าหาไม้มาได้ตามมาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาตรวจสอบก็พบว่าได้มาอย่างถูกต้อง


นายกาศพล ยืนยัน เงินงบประมาณทั้งหมดยังอยู่ในบัญชีครบทุกบาททุกสตางค์ ขอให้ประชาชนรวมทั้งสื่อมวลชน คลายความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตได้ ในส่วนของบริษัทผู้รับจ้าง หากไม่สามารถซ่อมแซมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ได้ทันตามสัญญา ก็จะต้องถูกปรับเป็นรายวัน จนกว่าบริษัทจะซ่อมบูรณะสะพานแล้วเสร็จ โดยจะต้องผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการการตรวจจ้างเสียก่อน จึงจะสามารถเบิกงบประมาณค่าใช้จ่ายได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook