เปิดโผทหาร ′พล.อ.อุดมเดช′ จ่อ ผบ.ทบ.คนใหม่ ′พล.ร.อ.ไกรสร′ ขึ้น ผบ.ทร. ′พล.อ.อ.ตรีทศ′ คุมทัพฟ้า

เปิดโผทหาร ′พล.อ.อุดมเดช′ จ่อ ผบ.ทบ.คนใหม่ ′พล.ร.อ.ไกรสร′ ขึ้น ผบ.ทร. ′พล.อ.อ.ตรีทศ′ คุมทัพฟ้า

เปิดโผทหาร ′พล.อ.อุดมเดช′ จ่อ ผบ.ทบ.คนใหม่ ′พล.ร.อ.ไกรสร′ ขึ้น ผบ.ทร. ′พล.อ.อ.ตรีทศ′ คุมทัพฟ้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการพิจารณาบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2557 ว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กำลังพิจารณารายชื่อจากเหล่าทัพต่างๆ ที่เสนอชื่อเข้ามาก่อนที่จะนัดประชุมหารืออีกครั้งถึงตำแหน่งต่างๆ จะต้องส่งนายทหารระดับสูงจากเหล่าทัพไปลงตำแหน่งที่เหมาะสม ในส่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จะต้องหมุนเวียนตำแหน่ง การปรับย้ายครั้งนี้ พล.อ.ธนะศักดิ์ เสนอชื่อ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. (ตท.12) หรือบิ๊กตี๋ ขึ้นเป็น ผบ.สส. จะขยับ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสธ.ทหาร (ตท.13) ข้ามห้วยไปเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ก่อนที่ทั้งคู่จะเกษียณในปี 2558

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ธนะศักดิ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ เกิดความคิดเห็นไม่ลงรอยกันเล็กน้อยในการปรับย้ายนายทหารนี้ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ต้องการดัน พล.อ.ศิริชัย ขึ้นเป็น ผบ.สส.ตามที่เคยสัญญาใจกันเอาไว้เมื่อครั้งที่ให้ขยับออกจากกองทัพบกมาเป็น เสธ.ทหาร โดยต้องการให้ พล.อ.วรพงษ์ไปเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม อย่างไรก็ตาม รายชื่อยังไม่ลงตัวเพราะต้องประชุมหารือกันอีกครั้งในคณะกรรมการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลที่มีรัฐมนตรีกลาโหมเป็นประธาน ถึงจะได้ข้อยุติในกลางเดือนสิงหาคม ก่อนจะนำขึ้นโปรดเกล้าฯ นอกจากนี้ ในกองบัญชาการกองทัพไทยจะขยับ พล.อ.สมหมาย เกาฎีระ ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ตท.15) เป็นรอง ผบ.สส. (อัตราจอมพล) พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ รอง เสธ.ทหาร (ตท.15) เป็น เสธ.ทหาร (อัตราจอมพล) พล.อ.วิเชียร ศิริสุนทร ผอ.ศูนย์ประสานงานโครงการพระราชดำริฯ (ตท.15) เป็น ผบ.นทพ.

ส่วนตำแหน่ง 5 เสือ ทบ.ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเกษียณอายุ เสนอชื่อ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. (ตท.14) ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.15) แคนดิเดตอีกคน ขยับขึ้นเป็นรอง ผบ.ทบ.ในอัตราจอมพลก่อนเกษียณ พร้อมกับ พล.อ.อุดมเดช ในปี 2558 ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.12) ถือได้ว่าเป็นคนสุดท้ายของ ตท.12 ขยับขึ้นเป็นประธานคณะที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. (อัตราจอมพล) ก่อนเกษียณ ส่วน พล.อ.อักษรา เกิดผล เสธ.ทบ. (ตท.14) ถูกโยกไปเป็นรอง ผบ.สส.ในอัตราจอมพลเพื่อรอเกษียณปี 2558 ทั้งนี้ คาดว่า พล.ท.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รอง เสธ.ทบ. จะย้ายข้ามฝากไปเป็น ผอ.สำนักนโยบาย และแผนกระทรวงกลาโหม (อัตราพลเอก)

สำหรับนายทหารที่ได้ขยับขึ้นมาจ่อในไลน์ 5 เสือ ทบ.คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเสนอชื่อ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.14) เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ.และ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 (ตท.15) น้องชายขึ้นมากินตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ.เพื่อรอจ่อเก้าอี้ ผบ.ทบ. หลังจาก พล.อ.อุดมเดช เกษียณปีหน้า เพราะทั้ง 2 คนจะเกษียณในปี 2559 มีโอกาสชิงตำแหน่งจ่าฝูงกองทัพบกด้วยกันทั้งคู่ นอกจากนี้ พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รอง เสธ.ทบ. (ตท.14) จะขยับขึ้นเป็น เสธ.ทบ.เพื่อทำหน้าที่เป็นฝ่ายอำนวยการให้กับ ผบ.ทบ.คนใหม่ก่อนจะเกษียณปีหน้า

สำหรับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 คาดว่า พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วย เสธ.ทบ.ฝ่ายยุทธการ (ตท.16) ที่จะเกษียณในปี 2559 จะเบียด พล.ต.เทพพงษ์ ทิพยจันทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.18) ขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เพราะเป็นน้องรัก พล.อ.ประยุทธ์ อีกคนหนึ่ง ทำให้ พล.ต.พงษ์เทพ ต้องขยับขึ้นไปเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 ขณะที่ พล.ต.ปราการ ชลยุทธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 กลับมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 โดยได้รับคืนความชอบธรรมจากที่เคยถูกย้ายข้ามไปเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อรอขึ้นแม่ทัพภาคที่ 4 แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับส่ง พล.ท.วลิต โรจนภักดี รองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งไม่สามารถเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ ไปเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ขัดตาทัพในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ทั้งนี้ เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างกระทรวงกลาโหมใหม่ในการแต่งตั้งโยกย้าย ทำให้ต้องขยายอัตรา รอง เสธ.ทบ.เพิ่มเป็น 4 อัตรา มีผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้ง อาทิ พล.ท.สุชาติ หนองบัว ผู้ช่วย เสธ.ทบ.ฝ่ายกำลังพล (ตท.15) พล.ท.กิตติ อินทรสร ผู้ช่วย เสธ.ทบ.ฝ่ายข่าว (ตท.14) พล.ท.ศุภกร สงวนชาติศรไกร ผู้ช่วย เสธ.ทบ.ฝ่ายส่งกำลังบำรุง (ตท.15) และ พล.ท.ภาณุวัชร นาควงษม์ ผู้ช่วย เสธ.ทบ.ฝ่ายกิจการพลเรือน (ตท.17) ขึ้นเป็นรอง เสธ.ทบ.

สำหรับกองทัพเรือ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. (ตท.13) ตัดสินใจเสนอชื่อเพื่อนร่วมรุ่นคนสุดท้ายที่ยังไม่เกษียณ คือ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้ช่วย ผบ.ทร. (ตท.13) ขึ้นเป็น ผบ.ทร.ค่อนข้างแน่นอนโดยเบียด พล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผบ.กองเรือยุทธการ (ตท.14) ที่ต้องขยับเข้ามากินอัตราจอมพลเรือในตำแหน่งรอง ผบ.ทร. พร้อมกับดันเพื่อน ตท.13 อีกคน คือ พล.ร.อ.ธนรัตน์ อุบล ประธานที่ปรึกษาพิเศษ ทร.ข้ามห้วยไปเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมก่อนเกษียณปีหน้า ทั้งนี้ พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงษ์พิพัฒน์ เสธ.ทร. (ตท.14) ถูกโยกไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด กินอัตราจอมพลเรือ โดยขยับเอา พล.ร.อ.อภิชัย อมาตยกุล ที่ปรึกษาพิเศษ ทร.มาเป็น เสธ.ทร.แทน

ด้านกองทัพอากาศแม้ว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. จะมีภารกิจดูแลงานด้านเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ได้จัดทำบัญชีรายชื่อเรียบร้อยแล้ว พร้อมนำเสนอไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย มีชื่อของ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง เสธ.ทอ. (ตท.14) ขยับขึ้นเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ เพราะถือว่าอาวุโสสูงสุดในกองทัพอากาศ ก่อนจะเกษียณในปี 2559 โดยมี พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธ์ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่าย เสธ.ประจำ ผบ.ทอ. (ตท.15) ขึ้นเป็นรอง ผบ.ทอ. (อัตราจอมพล) ก่อนเกษียณ ขณะที่ พล.อ.อ.วรฉัตร ธารีฉัตร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. (ตท.15) เป็นประธานคณะที่ปรึกษา ทอ. (อัตราจอมพล) พล.อ.อ.พลเทพ โหมดสุวรรณ ผบ.หน่วยบัญชาการควบคุมปฏิบัติการทางอากาศ (ตท.15) ไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด (อัตราจอมพล) นอกจากนี้ ยังขยับ พล.อ.ท.สุทธิพันธ์ กฤษณคุปต์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. (ตท.16) เป็น เสธ.ทอ. พล.อ.ท.จอม รุ่งสว่าง รอง เสธ.ทอ. (ตท.16) และ พล.อ.ท.ศิวเกียรติ์ ชเยมะ ผู้ทรงคุณพิเศษ ทอ.ได้เป็นผู้ช่วย ผบ.ทอ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook