มติกตช.เลือกพล.ต.อ.สมยศนั่งผบ.ตร.คนใหม่

มติกตช.เลือกพล.ต.อ.สมยศนั่งผบ.ตร.คนใหม่

มติกตช.เลือกพล.ต.อ.สมยศนั่งผบ.ตร.คนใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่ประชุม ก.ต.ช. มีมติเลือก 'พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง' เป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ แล้ว ขณะที่เจ้าตัวเผย มีความภูมิใจ และเป็นเกียรติ พร้อมทำงานเต็มที่ ยันสามารถทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้เป็นอย่างดี

พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุม ก.ต.ช. ว่า ได้เสนอให้ที่ประชุม ก.ต.ช.พิจารณา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 10 ซึ่งที่ประชุม มีมติเลือก พล.ต.อ.สมยศ เป็น ผบ.ตร. 5 เสียง จากทั้งหมด 6 เสียง และอีก 1 เสียง งดออกเสียง โดยให้เหตุผลที่เลือกว่า พล.ต.อ.สมยศ มีความเชี่ยวชาญในคดีเกี่ยวกับความมั่นคงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. โดยที่ผ่านมา มีผลงานการจับกุมในคดีความมั่นคงหลายคดี โดยเฉพาะคดีหมิ่นเบื้องสูง ที่ทาง คสช.กำชับเป็นคดีหลัก

นอกจากนี้ หัวหน้า คสช. ยังมอบนโยบายให้แก่ สตช. ว่า ให้เน้นการดูแลแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงต้องทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือนได้ดี อีกทั้งฝากให้เจ้าหน้าที่ ตร.ยึดหลักจรรยาบรรณในวิชาชีพอย่างเคร่งครัด ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และขอให้มีการเข้มงวดในการตรวจการทุจริตคอร์รัปชั่นใน ตร.ชั้นผู้ใหญ่

ทั้งนี้ ทางด้าน หัวหน้า คสช. ได้สนับสนุนการเพิ่มอัตรากำลังพล 5,000 นาย และในอนาคต มีแผนจะเพิ่มกำลังพลให้อีก 9,000 นาย

ส่วนบรรยากาศบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ในช่วงนี้ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุความ
วุ่นวายเกิดขึ้น

 

ประวัติ พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2497 มีภรรยาชื่อ นางพจมาน พุ่มพันธุ์ม่วง มีบุตร 2 คน บุตรสาวชื่อ น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง บุตรชาย ชื่อ ร.ต.ต.รชต พุ่มพันธุ์ม่วง ส่วนประวัติการศึกษา จบมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนติยานุกูล จ.พระนครศรีอยุธยา จบโรงเรียนเตรียมทหาร (ตท.รุ่นที่ 15) จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.รุ่น 31) จบปริญญาโท รัฐศาสตร์การเมือง มหาวิทยาลัยปูนา จากอินเดีย จบปริญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารงานยุติธรรมและสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ส่วนหลักสูตรต่าง ๆ ที่จบการอบรมนั้น จบหลักสูตรการบริหารงานตำรวจระดับสูงรุ่นที่ 18 จบหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่น 47 จบหลักสูตร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 17 จบหลักสูตร และใด้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสอบสวน จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เลขที่ พ.431/48 จบหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) รุ่นที่ 13 จบหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันสิทยาการตลาดทุน (วตท.) รุ่นที่ 10

ส่วนประวัติการรับราชการ
เริ่มรับราชการครั้งแรกที่เมื่อ 10 เม.ย. 2521 เป็นรอง สวส.สน.พระโขนง/ 16 พ.ย. 2526 เป็นรอง สว.จร.สน.ภาษีเจริญ/ 16 พ.ย. 2527 เป็น รอง สวส.สน.บางยี่เรือ/ 12 ต.ค. 2530 เป็น รอง สวส.สน.สำราญราษำร์ /1 มี.ค. 2532 เป็น สว.(กอ.รมน.)กพ./ 16 ธ.ค. เป็นรอง ผกก. (กอ.รมน.) กพ./ 1 มี.ค. 2538 เป็น ผกก.วช./ 25 ต.ค. 2539 เป็น รอง ผบก.ชุดตรวจงาน อก.ส่วนตรวจราชการ 1 จต./ 16 ธ.ค. 2540 เป็นรอง ผบก.อก.ส.ต.ม./ 24 เม.ย. 2542 เป็น รอง ผบก.ตม.1สตม./ 19 ต.ค. 2542 เป็น ผบก.ประจำ ตร.(สมช.)/ 1 ต.ค. 2554 เป็น ผบก.ผง.2 สนผ./ 11 พ.ย. 2545 เป็นผู้ช่วย สนผ./ 1 ต.ค. 2546 เป็นผู้ช่วย ผบช.สตม./ 1 ตุลาคม 2547 เป็นรองจเรตำรวจ (สบ 7)/ 1 ต.ค. 2549 เป็น ผบช.ประจำ ตร. (ทำหน้าที่ประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย)/ 30 พ.ย. 2550 เป็น ผบช.ประจำ ตร.(ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน)/ 7 ก.พ. 2551 เป็นจเรตำรวจ (สบ 8)/ 31 พ.ค. 2551 เป็น ผบช.ก./ 1 ตุลาคม 2551 เป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร./ 18 พ.ย. 2554 เป็นที่ปรึกษา (สบ 10) (ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ)/ 1 ต.ค. 2555 รอง ผบ.ตร. จนถึงปัจุบัน


พร้อมทั้งยังได้รับตำแหน่งอื่นอีก เช่น เป็นเลขาธิการสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย เป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงรียนท่าเรือนิตยานุกูล จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นกรรมการองค์การคลังสินค้า เป็นกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค เป็นกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค เป็นกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

 

สมยศภูมิใจนั่งเก้าอี้ผบ.ตร.พร้อมทำงานเต็มที่

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ เปิดเผยถึงความรู้สึกหลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. มีมติให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ว่า รู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติแก่ตัวเองและวงค์ตระกูลเป็นอย่างมาก ถึงจะเป็นภารกิจที่หนักและยากกว่าเดิมก็เป็นสิ่งที่ท้าทาย ขอขอบคุณผู้บัญชาการทหารบกที่ให้โอกาส

ด้านเหตุผลที่มติออกมาเป็นตนนั้นเชื่อว่า ผู้ใหญ่ได้เห็นถึงผลงานที่ผ่านมา ที่ทำแล้วเกิดผลเป็นรูปธรรมตลอดมา ซึ่งถ้าเป็น ผบ.ตร.คงจะเป็นแบบให้ประชาชนรักตำรวจให้มากที่สุด

เบื้องต้นมีความคาดหวังในสิ่งที่จะทำหลักๆ 3 อย่าง คือ สร้างความสามัคคีและขวัญกำลังใจในหมู่คณะข้าราชการตำรวจทุกนาย สร้างสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจเพื่อให้ตำรวจทุกนายมีกำลังใจในการทำงานเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือสร้างความผาสุขให้เกิดกับประชาชน

โดย พล.ต.อ.สมยศ ยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นเพียงเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ที่มายืนในจุดนี้ได้ถือเป็นวาสนาที่ดีที่สุดแล้ว ยืนยันจะทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อสามารถทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้เป็นอย่างดี จะพยายามทำทุกอย่างที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม ด้านการแก้ปัญหาก็จะมีการคิดใหม่ทำใหม่บ้างบางเรื่อง เพราะปัญหาบางอย่างแบบเดิมก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้แล้ว


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook