แชร์ว่อน! ฝรั่งถูกสาวไทยหลอก เป็นขอทานกลางกรุง

แชร์ว่อน! ฝรั่งถูกสาวไทยหลอก เป็นขอทานกลางกรุง

แชร์ว่อน! ฝรั่งถูกสาวไทยหลอก เป็นขอทานกลางกรุง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กช่วยกันแชร์ส่งต่อภาพและข้อความช่วยเหลือชายชาวต่างชาติคนหนึ่ง ซึ่งระบุว่าถูกหญิงชาวไทยหลอกจนสิ้นเนื้อประดาตัว ชีวิตพลิกผันเร่ร่อนไม่ต่างไปจากขอทาน แวะเวียนอยู่ย่านนานาและถนนสุขุมวิท อีกทั้งยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ประเด็นดังถูกส่งต่ออย่างแพร่หลายด้วยน้ำใจช่วยเหลือของคนไทย ท่ามกลางคำถามเล็กๆ ที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ตามรายงานระบุว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา โซเชียลเน็ตเวิร์กมีการแชร์เรื่องราวของ นาย Leif Christer อายุ 45 ปี ชาวสวีเดน ที่หลายเป็นคนเร่ร่อนนอนอยู่ข้างถนนย่านนานา มีการสอบถามพบว่า เคยถูกหญิงสาวชาวไทยหลอกจนหมดตัวและทิ้งไป ทำให้ไม่มีทรัพย์สินใดๆ หลงเหลือเลย แม้กระทั้งหนังสือเดินทาง สร้างความสงสารเวทนาแก่ผู้ที่พบเห็น กรณีดังกล่าวจึงถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีผู้ที่เคยพบเจอชายชาวต่างชาติในละแวกดังกล่าว เข้ามายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เคยพบเห็นชายคนนี้เร่ร่อนอยู่สัก 2-3 เดือนแล้ว

ล่าสุดทาง มูลนิธิกระจกเงา ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว หลังมีผู้นำเรื่องชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวไปร้องเรียน เพื่อติดต่อประสานงานของความช่วยเหลือ จึงได้พบข้อมูลว่า นาย Leif Christer เป็นชาวสวีเดน มีประวัติเดินทางมาประมาณ 3 ครั้ง ไม่มีญาติพี่น้องที่ประเทศบ้านเกิด มีอาการป่วยที่ต้องใช้สายสวนปัสสาวะและเป็นโรคติดสุราเรื้อรัง อีกทั้งพบอาการซึมเศร้าและมีพฤติกรรมนั่งร้องไห้เองบ่อยๆ ส่วนประเด็นถูกหญิงไทยที่ทำงานบาร์ในละแวกนั้นหลอกเป็นเรื่องจริง

มูลนิธิกระจกเงา ยังชี้แจงต่อว่า กรณีที่ระบุว่าทางสถานทูตสวีเดนไม่ช่วยเหลือนั้น ไม่เป็นความจริง แต่ทางสถานทูตไม่พบข้อมูลของญาติที่ประเทศบ้านเกิดของชายคนดังกล่าว จึงทำให้การช่วยเหลือเป็นไปได้ยาก อีกทั้ง นาย Leif Christer ยังไม่ต้องการให้เกิดการผลักดันกลับประเทศ เพราะกลัวจะติดบัญชีดำไม่ได้กลับมาเมืองไทยอีก รวมทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับ ที่ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหา แม้ว่าชายคนดังกล่าวจะอยากกลับบ้านเกิดก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิกระจกเงา เสนอแนวทางช่วยเหลือชายชาวต่างชาติคนดังกล่าว ซึ่งน่าจะถูกหลอกลวงเสียทรัพย์มากกว่าการเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทางหน่วยงานของไทยอาจจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ หรือทำการส่งกลับประเทศเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือที่ไปตามหลักมนุษยธรรม

ขอบคุณข้อมูลจาก มูลนิธิกระจกเงา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook