หน.คสช.ถกSME กำชับพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

หน.คสช.ถกSME กำชับพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

หน.คสช.ถกSME กำชับพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'พล.อ.ประยุทธ์' กำชับต้องต้องร่วมกำหนดยุทธศาตร์และบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเอสเอ็มอี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี (SMEs) ครั้งที่ 2/57 โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช. และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. รวมทั้งฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดการประชุมว่า ปัจจุบันการคมนาคมขนส่งขนาดใหญ่สัมพันธ์กับธุรกิจเอสเอ็มอี ดังนั้น จึงต้องพัฒนาให้เกิดความสอดคล้องกัน ซึ่งการส่งเสริมเอสเอ็มอี จะต้องเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในด้วยกันเอง แต่ปัญหาในขณะนี้ยังพบว่า บางธุรกิจไม่ทราบว่าตนเองมีสถานะเป็นเอสเอ็มอีหรือไม่ จึงต้องสร้างความเข้าใจและส่งเสริมแหล่งเงินทุน เพื่อให้สัดส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ กับธุรกิจเอสเอ็มอีมีความเหมาะสม
 
ทั้งนี้ ต้องปรับปรุงและพัฒนาเอสเอ็มอี ให้มีความเข้มแข็ง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องร่วมกำหนดยุทธศาตร์และบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเอสเอ็มอีไปให้ได้

 

บอร์ดSMEอนุมัติยุทธศาสตร์เร่งด่วนปี58

นางสาววิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ SME ครั้งที่2/2557 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานการประชุม ว่า คณะกรรมการฯ ได้อนุมัติยุทธศาสตร์ระยะเร่งด่วนปี 2558 รวม 4 ยุทธศาสตร์ 13 โครงการ โดยเน้นผลลัพธ์สัดส่วน GDP ของธุรกิจ SME เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่แล้วและคาดหวังจะสามารถจดทะเบีบนนิติบุคคลเพิ่ม 5 หมื่นราย

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ดังกล่าวเรียกว่า 4P ประกอบด้วย การส่งเสริมบูรณาการภาครัฐให้มีเอกภาพเพื่อสามารถขึ้นทะเบียนผู้ประกอบ และให้ภาครัฐเป็นพี่เลี้ยงสนับสนุนช่วยเหลือตามความต้องการของผู้ประกอบการและส่งเสริมเข้าสู่ตลาดการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมากขึ้น ส่งเสริมและพัฒนา SME ตามวงจรธุรกิจ เพื่อเพิ่มผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางกระจายสู่ภูมิภาคและจะมีศูนย์บริการครบวงจรทั่วประเทศ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ SME โดยให้มหาวิทยาลัย และสถาบันอาชีวศึกษาร่วมคิดวิจัยพัฒนานวัฒกรรมต่างๆ และยุทธศาสตร์สุดท้ายคือ เชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ให้มีพลังอำนาจในการต่อรอง

 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :::

ประยุทธ์บอกยังเป็นคนเดิมย้ำทหารภักดีสถาบันทำเพื่อชาติ
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=562233

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook