สุขุมพันธุ์หารืออภิสิทธิ์ร่วมอัดฉีดงบกระตุ้นศก.
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060

    สุขุมพันธุ์หารืออภิสิทธิ์ร่วมอัดฉีดงบกระตุ้นศก.

    2009-01-27T09:45:47+07:00
    แชร์เรื่องนี้
    (26ม.ค.) เวลา 09.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.พร้อมคณะผู้บิรหารกทม.ได้เดินทางเข้าพบหารือร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงที่ตนหาเสียง ได้บอกประชาชนว่าจะมีโครงการใดบ้างที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาล เมื่อได้รับการเลือกตั้งแล้วจึงได้มาหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้ผลักดันการทำงาน ซึ่งมีประมาณ 10เรื่อง เช่น การขยายและพัฒนาเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชน มหาวิทยาลัยในสังกัดกทม. การใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนเป็นลานกีฬา ซึ่งบางเรื่องสามารถเดินหน้าดำเนินการได้ทันที อาทิ กรณีมหาวิทยาลัยในสังกัดกทม.ที่กฎหมายอยู่ระหว่างรอการพิจารณาในสภาฯ

    อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเห็นด้วยกับกรณีที่กทม.จะให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจ เพราะปัญหาปากท้องถือเป็นปัญหาที่อยู่ในใจของประชาชน และกำชับให้ตนกลับไปดูแลปัญหาราคาอาหารแพง โดยให้ตนกลับไปพิจารณาดูว่าจะช่วยประชาชนชาวกทม.ได้อย่างไร และจะมีการยกร่างแผนการพลิกฟื้นการท่องเที่ยวสำหรับกทม. โดยกทม.จะเดินสายตรง ชักจูงให้นักท่องเที่ยวกลับมา เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวเมื่อปี 2550 จำนวน 300,000 ล้านบาท เกือบครึ่งหนึ่งมาจากการท่องเที่ยวของต่างชาติ 11 ล้านคน ในปีนี้มีการประเมินว่าจะลดลง10-20 % ดังนั้นจะปล่อยให้หายไปไม่ได้

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้มีความเห็นตรงกับทีมงานผู้บริหารกทม. ที่จะเร่งรัดระบบการศึกษาและระบบสาธารณสุขในกทม.ให้มีมาตรฐานสูงขึ้นและเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับส่วนอื่นของประเทศ เพราะขณะนี้ระบบการศึกษาของกทม.ต้องถือว่าเป็นระบบการศึกษานำร่องตามนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ให้เรียนฟรี เรียนดีและเรียนอย่างมีคุณภาพ

    นอกจากนี้ยังมีเรื่องสถานีโทรทัศน์ของกทม. ทั้งนี้นโยบายเรื่องเศรษฐกิจนั้นนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยและสนับสนุนในสิ่งที่ตนทำไป คือเรื่องการอัดฉีดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจของกทม.ให้เกิดเงินหมุนเวียนและเกิดประโยชน์ในระยะยาว โดยจะเร่งรัดการการเบิกจ่ายงบประมาณของกทม. ซึ่งขณะนี้กทม.เบิกจ่ายได้เพียง 17 % และจะผลักดันร่วมกับสภา กทม.ให้มีการนำเงินคงคลังของกทม.บางส่วน ประมาณ 3,000 ล้านบาท ออกมาใช้ ซึ่งปัจจุบันกทม.มีเงินคงคลังอยู่กว่า 20,000 ล้านบาท เพียงแต่นายกรัฐมนตรีฝากให้ไปดูแลปัญหาเรื่องราคาข้าวของแพง ซึ่งตนจะไปหารือกับทีมงาน โดยอาจจะไปเปิดบางพื้นที่ทั้งในความดูแลของกทม.และกรมธนารักษ์ รวมทั้งภาคเอกชน ให้มีการค้าขายของโดยไม่เก็บค่าเช่า เพื่อให้มีการลดราคาจากปกติ10หรือ15 %

    ทั้งนี้กทม.ยังคงนโยบายในการดูแลผู้ค้าและเห็นว่าจะให้มีการหยุดขายเดือนละ 2 วัน โดยให้แต่ละพื้นที่ไปกำหนดเอง เพราะสภาพการค้าขายแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน หรือบางพื้นที่จะเปิดขายทุกวันก็สามารถทำได้ แต่ต้องรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ ตนก็จะอนุญาตให้เปิดขายทุกวัน โดยในเบื้องต้นอาจจะให้ทดลองสัก 6 เดือนก่อน

    รายการคมชัดลึกตอน-ภาษีที่ดินและมรดกเก็บได้จริงหรือ?

    ทันทีที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเดินหน้าผลักดันกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่ดินและมรดก ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างหนักว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทนแรงเสียดทานได้หรือไม่ ภาษีที่ดินและมรดกจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่