ทวงหนี้โหด! ขว้างขวดเผาบ้าน เผยใช้หนี้เท่าไหร่ก็ไม่หมด

ทวงหนี้โหด! ขว้างขวดเผาบ้าน เผยใช้หนี้เท่าไหร่ก็ไม่หมด

ทวงหนี้โหด! ขว้างขวดเผาบ้าน เผยใช้หนี้เท่าไหร่ก็ไม่หมด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(5 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.เรืองยศ ภูแช่มโชติ รอง ผกก.(ป) สภ.เมืองหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 203 หมู่ 7 บ้านหนองเดิ่น ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย หลังจากที่ น.ส.ฤทัยรัตน์ ชูสุวรรณ อายุ 22 ปี และนายสุวิชา คำภูกา อายุ 21 ปี สองสามีภรรยา เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองหนองคาย หลังจากถูกทวงหนี้โหดด้วยการบ้านถูกปาด้วยขวด และเผาบ้าน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวนายแจ็คที่ห้องพักไม่มีเลขที่ บริเวณเซ็นเตอร์พอยส์หนองคาย แต่ไม่พบตัวนายแจ็ค พบเพียงโพยสำหรับเก็บหนี้จำนวน 6 ชุด ลูกหนี้นับร้อยราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ทางด้าน นายสุวิชา คำภูกา เล่าว่า เมื่อวานนี้นายแจ็ค ที่มีหน้าที่เก็บเงินกู้ ได้โทรมาข่มขู่และด่าภรรยาของตน ที่ไม่ยอมใช้หนี้ จากนั้นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ขณะที่ตนและครอบครัวนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ที่เปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่งด้วย ก็มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาปาขวดใส่เกือบถูกลูกของตนแล้วขับรถหลบหนีไป

จากนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืนก็ได้มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาจอดข้างบ้านสักพักได้ยินเหมือนเสียงจุดไม้ขีดไฟ และมองเห็นไฟลุกไหม้ที่บริเวณประตู ก่อนที่วัยรุ่นคนดังกล่าวจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตนจึงได้รีบดับไฟที่กำลังลุกไหม้ที่ประตู

นายสุวิชา บอกว่า เมื่อต้นปี 2556 ที่ผ่านมา นางเบญจรัตน์ ปัญญาสวัสดิ์ ป้าของภรรยา ได้ขอให้ภรรยาของตนช่วยค้ำประกันเงินกู้นอกระบบให้ แต่ตอนที่ทำสัญญานั้น คนที่ปล่อยเงินกู้ได้แยกสัญญาเงินกู้ออกเป็น 2 ฉบับ ฉบับละ 5,000 บาท โดยให้ภรรยาของตนเป็นลูกหนี้ด้วย ซึ่งป้าก็เป็นผู้รับผิดชอบจ่ายหนี้มาโดยตลอด

ต่อมาปลายปี 2556 ป้าได้ย้ายไปอยู่จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากรำคาญการทวงหนี้ ที่ป้าบอกว่าจ่ายไปหมดแล้ว ก็ยังบอกว่าไม่หมด ขอดูหลักฐานก็ไม่ให้ดู เหลืออยู่เท่าไหร่ก็ไม่บอก มีแต่มาเก็บเอาครั้งละ 500 บาท หลังจากป้าย้ายไปแล้ว นายแจ็ค จึงได้มาทวงหนี้กับภรรยาของตนแทน ซึ่งภรรยาของตนก็จ่ายมาโดยตลอด ไม่รู้ว่าจะหมดตอนไหน จนกระทั่งเมื่อวานนี้นายแจ็คได้มาทวงหนี้ แต่ภรรยายังไม่มีให้ ต่อมาก็ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นขึ้น ตนและภรรยาจึงได้เข้าแจ้งความ และร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยเหลือ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook