วอนช่วยหนุ่มป่วยทางจิต พ่อล่ามโซ่นานนับ 10 ปี

วอนช่วยหนุ่มป่วยทางจิต พ่อล่ามโซ่นานนับ 10 ปี

วอนช่วยหนุ่มป่วยทางจิต พ่อล่ามโซ่นานนับ 10 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(13 ก.ย.) ร.ต.ต.ปรีชา รักษ์จันทร์ รอง สวป.สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม จ.ภูเก็ต เข้าตรวจสอบภายในบ้านไม่มีเลขที่กลางสวนยางบ้านปากพลี หมู่ที่ 8 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง หลังได้รับแจ้งจากนายอนุรักษ์ ตะวัน อายุ 28 ปี ว่าพี่ชายเกิดอาการคลุ้มคลั่งอยู่ภายในบ้าน ต้องการให้เจ้าหน้าที่รับตัวไปทำการรักษา เมื่อไปถึงพบนายอนุรักษ์ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในหมู่บ้านปากพลี นำเจ้าหน้าที่เข้าไปตามถนนเส้นเล็กๆที่ตัดผ่านกลางสวนยางอย่างทุลักทุเล ประมาณ 3 กิโลเมตรจึงถึงบ้าน ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกสูงกั้นด้วยสังกะสีสภาพทรุดโทรม

ใต้ถุนบ้านพบนายประวิตร ตะวัน อาย 37 ปี ผู้เป็นพี่ชายถูกล่ามโซ่ไว้กับเสาบ้านในสภาพมอมแมม สวมใส่เสื้อผ้าขาดวิ่น นั่งอยู่บนแคร่ไม้ซึ่งสร้างไว้ให้เป็นที่นอน มีร่องรอยการนำอาหาร ขวดน้ำดื่มวางไว้บนแคร่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม จ.ภูเก็ตได้เข้าพูดคุยสอบถามพูดจาเบื้องต้นพบว่ายังมีสติ พูดโต้ตอบ ได้เกือบเป็นปกติจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ นายอนุรักษ์ เล่าว่าตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาพี่ชายเกิดอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนัก ทำลายข้าวของ และจะทำร้ายตนเองด้วยจึงไม่สามารถเข้าใกล้ได้แต่เฝ้าดูห่างๆ และคอยพูดคุยสังเกตอาการ ก่อนตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามารับตัว เพื่อไปรักษาตัวเนื่องจากตนเองไม่มีความสามารถในการพาพี่ชายไปรักษาตัวเพราะไม่มีเงิน

นายอนุรักษ์เล่าต่อว่า ครอบครัวของตนมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน มีอาการลักษณะดังกล่าว 3 คน รักษาหายแล้ว 2 คน ส่วนนายประวิตรพี่ชายเรียนจบที่วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งด้านช่างยนต์หลังจบการศึกษาในปีสุดท้ายเริ่มมีอาการสติไม่ดีจนถึงปัจจุบันผ่านมาเป็นเวลากว่า 20 ปี เคยพาไปรักษาแต่ไม่หาย ตนและครอบครัวจึงพาพี่ชายมาทำสวนยางอาศัยที่นี่ มาเป็นเวลา10 กว่าปี ที่ผ่านมาเคยปล่อยให้พี่ชายไปไหนมาไหนได้ แต่พี่ชายมักจะไปแกะอุปกรณ์รถจักรยานยนต์และรถยนต์ของชาวบ้าน บางครั้งก็ขูดสีรถกรีดรถที่จอดอยู่ในหมู่บ้าน ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย พ่อจึงเกรงว่าจะทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจึงตัดสินใจ ล่ามโซ่ไว้มาประมาณ 10 ปี เพื่อไม่ให้พี่ชายออกไปสร้างความเดือนร้อนให้ชาวบ้านและปล่อยให้ตนมีหน้าที่ดูแลให้ข้าวให้น้ำและดูแลเรื่องการขับถ่ายต่างๆ ให้กับพี่ชาย แต่ก็ไม่ได้ดูแลตลอด เนื่องจากต้องออกไปกรีดยาง ส่วนพ่อกับแม่ขณะนี้ทำงานอยู่ที่จังหวัดพังงา เดินทางมาเยี่ยมเดือนละครั้ง เมื่อพี่ชายมามีอาการคลุ้มคลั่งทำให้ตนไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามารับตัวไปรักษาดังกล่าว

เมื่อสอบถามจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ได้รับคำตอบว่า ชาวบ้านทั้งหมดทราบดีว่านายประวิตรถูกล่ามโซ่ไว้เป็นเวลานานนับสิบปี และครั้งสุดท้ายที่พบเห็นนายประวิตรออกไปในหมู่บ้านไปแกะอุปกรณ์ต่างๆ ขูดกรีดรถจักยานยนต์ รถยนต์และจุดไฟเผาขยะในสวนยางชาวบ้านได้รับเสียหายนับหมื่นบาท แต่ยืนยันว่านายประวิตร ไม่เคยทำร้ายคนอื่น แต่ชาวบ้านก็หวาดกลัว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ภูเก็ต เพื่อช่วยเหลือเนื่องจาก ศูนย์พึ่งได้ภายในโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook