มองผ่านเลนส์คม - หลุด
เราหลายๆ คนมักพูดกันว่าภาพหลุดเป็นเรื่องส่วนตัว และการเข้าไปยุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่นเรียกว่าเสียมารยาท แต่ขณะเดียวกัน กลับวิจารณ์บุคคลในภาพหลุดอย่างไม่ยั้งปากว่าทำตัวเสื่อมทราม ไร้ศีลธรรม
ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าบุคคลในภาพหลุด เป็นคนดัง หรือคนสาธารณะที่สังคมจับตาอยู่
การมีความรักหรือการแสดงอารมณ์รักของคนดังจึงคล้ายกับเป็นเรื่องไร้ยางอาย เพราะทุกอย่างในชีวิตของคนดังถูกทำให้เป็นเรื่องสาธารณะไปเสียหมด
แม้คนดังไม่แสดงความรักในที่สาธารณะ หรือไม่เคยปรารถนาให้ชีวิตรักส่วนตัวเป็นเรื่องสาธารณะ ก็จะต้องกลายเป็นสาธารณะคือถูกเปิดเผย หรืออันที่จริงคือประจานไปทั่วอยู่ดี เมื่อบรรดานักข่าวทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องตามล่าหาความจริง
ให้บรรดาคนดังปากแข็งยอมจำนน ว่ากำลังรักหรือมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบุคคลต้องสงสัยในทัศนะของนักข่าวจริง
เพื่อแสดงนัยว่า นิสัยแท้จริงของคนดัง คือ โกหกหลอกลวง คิดแต่จะสร้างภาพให้ตัวเองดูดีวิเศษ เช่น ถ้าเป็นคนหนุ่มสาวยังไม่แต่งงาน ก็สร้างภาพบริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่แต่งงานแล้วก็สร้างภาพรักเดียวใจเดียว และที่แต่งงานแล้วแต่เพิ่งเข้าใจเพศของตน จึงหันไปมีสัมพันธ์กับเพศเดียวกันก็อ้างว่าไม่ใช่เพศที่สาม เป็นต้น
น่าคิดว่าบางทีคนดังอาจจะไม่ชอบสร้างภาพเท่ากับนักสร้างข่าว ที่เป็นผู้สร้างทั้งภาพดีและร้ายให้คนดังตั้งแต่ต้น ทั้งยังไม่ค่อยชื่นชมความสามารถทางหน้าที่การงานของคนดัง เท่ากับความเคร่งศีลธรรมหรือเป็นคนดีในอุดมคติของชนชั้นกลางแบบไทยๆ รวมถึงการบิดเบือนธรรมชาติคือซ่อนความปรารถนาทางเพศ ซึ่งมักจะได้ผลในทางตรงข้ามคือเลยเถิดเกินพอดี
ลึกๆ ลงไปในใจของคนไทยจำนวนมาก อาจรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของคนดังที่จะต้องทำดีในระดับอุดมคติแทนคนทั่วไปรวมทั้งเรา ซึ่งไม่สามารถดีพร้อม (รวมถึงบริสุทธิ์ผุดผ่องกระทั่งความรู้สึกทางเพศ) ก็ได้
ในหลายกรณี คนดังจึงเป็นทั้งอัศวินนำทางและแพะสำหรับคนที่เชื่อว่าความผิดเป็นของคนอื่นเสมอ ซึ่งนับว่าหลุดจากความจริงไปหลายโยชน์
รายการคมชัดลึกตอน-ภาษีที่ดินและมรดกเก็บได้จริงหรือ?
ทันทีที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเดินหน้าผลักดันกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่ดินและมรดก ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างหนักว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทนแรงเสียดทานได้หรือไม่ ภาษีที่ดินและมรดกจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่