จนมุม! นศ.สาว-ดาราใจเด็ด ช่วยกันจับโจรล้วงกระเป๋า

จนมุม! นศ.สาว-ดาราใจเด็ด ช่วยกันจับโจรล้วงกระเป๋า

จนมุม! นศ.สาว-ดาราใจเด็ด ช่วยกันจับโจรล้วงกระเป๋า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(3 ต.ค.) เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลบุปผาราม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายเบิ้ม อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาสัญชาติกัมพูชา พร้อมของกลางแท็บเล็ตซัมซุง กาแล็กซี่ แท็บ 3 จำนวน 1 เครื่อง , เงินสด 500 บาท , บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ และกระเป๋าเป้สีดำ 1 ใบ โดยถูก 2 ผู้เสียหาย คือ น.ส.ปาริฉัตร จิตเจริญ อายุ 22 ปี และนายจตุรวิช หรืออู๋ กลมเกลี้ยง อายุ 24 ปี นักแสดงช่อง 3 ช่วยกันวิ่งจับตัว ได้ที่ป้ายรถประจำทางตรงข้ามห้างบิ๊กซี สาขาถนนอิสรภาพ เขตธนบุรี กรุงเทพ

ทั้งนี้ นายเบิ้ม ที่หลบหนีเข้าเมืองมาได้ร่วมกับนายตรี อายุ 35 ปี เพื่อนสัญชาติเดียวกันที่ยังหลบหนี ล้วงกระเป๋าผู้เสียหายบริเวณป้ายรถประจำทาง ในวันเกิดเหตุนายเบิ้ม ได้ล้วงกระเป๋า น.ส.ปาริฉัตร ได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์ไอโฟน 5 เอส 1 เครื่อง เงินสด 500 บาท และบัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ ก่อนจะล้วงกระเป๋านายจตุรวิช นักแสดงช่อง 3 ได้ซัมซุงกาแล็กซี่ แท็บ 3 จำนวน 1 เครื่อง แต่ผู้เสียหายทั้งสองรายรู้สึกตัว จึงช่วยกันวิ่งไล่จับนายเบิ้ม เอาไว้ได้พร้อมของกลาง แต่โทรศัพท์มือถือของ น.ส.ปาริฉัตร ผู้ต้องหาได้ส่งให้นายตรี เพื่อนร่วมแก๊ง ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปได้

จากการสอบสวน นายเบิ้ม รับสารภาพว่า เคยลักลอบเข้าเมืองไทยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ถูกตำรวจ สถานีตำรวจภูธรพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จับกุมและถูกผลักดันกลับประเทศ ต่อมาได้หาโอกาสลักลอบเข้ามาอีกครั้ง เมื่อประมาณต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา รับจ้างเป็นคนงานก่อสร้าง และเข็นของในตลาดย่าน อ.พระสมุทรเจดีย์ แต่รายได้ไม่พอส่งกลับไปเลี้ยงลูกสาวที่บ้านเกิด 2 คน จึงชักชวนนายตรีวางแผนล้วงกระเป๋า

น.ส.ปาริฉัตร กล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุ ขณะที่รอรถเมล์ เมื่อรถมาถึงกำลังจะขึ้นประตูหน้า จู่ๆ นายเบิ้ม เดินมาเบียดแย่งขึ้นรถแบบร้อนรน จากนั้นรีบเดินลงจากรถทางประตูหลัง เมื่อรถแล่นออกจากป้ายได้สักพัก รู้สึกว่ากระเป๋าสะพายใบเล็กข้างตัวมีน้ำหนักเบาผิดปกติ เมื่อก้มดูพบว่าทรัพย์สินทั้งหมดถูกล้วงเอาไปแล้วจึงรีบตะโกนบอกให้พนักงานขับรถจอดแล้วลงจากรถไปกับเพื่อน เพื่อวิ่งย้อนไปตามหาตัวนายเบิ้ม ที่ป้ายรถประจำทางอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าน่าจะยังวนเวียนอยู่แถวนั้น เมื่อวิ่งไปถึง ก็พบนายเบิ้ม กำลังวิ่งขึ้นรถเมล์เพื่อหลบหนี ตนและเพื่อนจึงวิ่งไล่ตามขึ้นไปลากตัวลงมาจากบนรถ โดยมีนายจตุรวิช ผู้เสียหายอีกรายที่ถูกก่อเหตุหลังตน ช่วยวิ่งตามมาจับกุมตัวด้วย

ด้านนายจตุรวิช กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งรถประจำทางสาย 40 มาจากหัวลำโพง เพื่อซื้อสายกีตาร์ที่ซอยมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ระหว่างที่นั่งรถก็เสียบหูฟังเข้ากับแท็บเล็ตมาตลอดทาง ขณะที่รถแล่นมาถึงป้ายดังกล่าวซึ่งห่างจุดหมายเพียง 100 ม. และกำลังจะลงจากป้าย พบว่าแท็บเล็ตหายไป จนเห็นนักศึกษากำลังวิ่งไล่คนร้าย จึงเข้าไปช่วยอีกแรงจนจับตัวได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook