ป.ป.ส.แถลงรวบผู้ต้องหาค้ายาชายแดนใต้รายสำคัญ

ป.ป.ส.แถลงรวบผู้ต้องหาค้ายาชายแดนใต้รายสำคัญ

ป.ป.ส.แถลงรวบผู้ต้องหาค้ายาชายแดนใต้รายสำคัญ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ป.ป.ส. ร่วมทหาร ตำรวจ เข้าจับกุม ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 25 ล้านบาท

นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงผลการจับกุม นายนิพนธ์ จำเริญ ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญ และมือปืนผู้มีบทบาทในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า คดีนี้ ทาง ป.ป.ส. ได้ติดตามพฤติกรรมมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 53 โดย นายนิพนธ์ มีพฤติการณ์จัดหายาเสพติดจากภาคเหนือและกรุงเทพฯ นำไปจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นายนิพนธ์ ยังกระทำผิดกฎหมายและถูกออหมายจับอีกหลายข้อหา ได้แก่ ร่วมกันปล้นทรัพย์ใน จ.สตูล มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และครอบครองอาวุธสงครามโดยไม่ได้รับอนุญาต จนกระทั่งล่าสุด ป.ป.ส. ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า นายนิพนธ์ หลบมากบดานใน จ.ปทุมธานี ตามบ้านพักของภรรยา 3 คน และได้นำเงินบางส่วนไปซื้อที่ดินปลูกยางพาราและปาล์มในพื้นที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จึงสืบสวนสะกดรอยและเข้าจับกุมตัวได้ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง

ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายนิพนธ์ ไปตรวจค้นที่บ้านพักในหมู่บ้านภัทรีดาเพลส จ.ปทุมธานี พบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ยาไอซ์จำนวนหนึ่งซุกอยู่ในห้องนอน จากนั้นจึงขยายผลการตรวจค้นและยึดทรัพย์รวม 8 จุด 4 จังหวัด มูลค่าทรัพย์สิน 25 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังอายัดเงินฝากในบัญชีธนาคาร 1.1 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้เป็นการขยายผลการจับกุม นายสมศักดิ์ ปานดี กับพวก 9 คน ในคดียาเสพติดของกลาง 20,070 เม็ด ไอซ์ 538 กรัม ซึ่งจับกุมตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2553

ด้าน นายเพิ่มพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้ผู้ต้องหามีประวัติโชกโชนในการก่ออาชญากรรมทั้งปล้นทรัพย์ ทวงหนี้ เป็นมือปืนรับจ้าง และเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในขณะที่ผู้ร่วมเครือข่ายถูกจับกุมได้ทั้งหมดแล้ว จะเห็นได้ว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีความชำนาญในการหลบหนี และระวังตัวอย่างมาก พกอาวุธปืนตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หลักฐานสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนจนพบที่กบดานได้ มูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ในครั้งนี้รวมมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ยังคงต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อไปว่ายังมีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกหรือไม่ หากพบก็ต้องทำการยึดอายัดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook