ศาลออกหมายจับ2ผัวเมียฆ่าครูญี่ปุ่น-ทำแผน24ต.ค.

ศาลออกหมายจับ2ผัวเมียฆ่าครูญี่ปุ่น-ทำแผน24ต.ค.

ศาลออกหมายจับ2ผัวเมียฆ่าครูญี่ปุ่น-ทำแผน24ต.ค.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลออกหมายจับ 2 ผัวเมีย ฆ่าครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่นแล้ว ขณะที่ ตำรวจคุมตัวตรวจร่างกายที่ บชน. เตรียมทำแผนพรุ่งนี้ ขณะที่ ลูกทานากะ อดีตสามี 'พรชนก' ที่เสียชีวิตจากการตกบันได เข้าพบตำรวจเพื่อขอให้รื่อคดีใหม่

ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2026/8 หมู่ที่ 15 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ และ นางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/237 หมู่ที่ 7 ถนนบางนา-ตราด ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของสพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งตาย" ภายหลังจากก่อเหตุร่วมกันฆ่า นายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น ก่อนทำการชำแหละศพ และนำศพใส่ถุงไปทิ้งเพื่ออำพรางคดี

 

ตร.นำตรวจร่างกายรอDNA - ทำแผน 24 ต.ค

พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รายงานผลการจับกุม นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี และ นางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี ในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งตาย" ภายหลังจากก่อเหตุร่วมกันฆ่า นายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น

โดยภายหลังจากวันที่ 14 ตุลาคม 2557 นายเทสซึโอะ บุตรชายของ นายโยชิโนริ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ว่าบิดาได้หายตัวไปจากห้องพักเลขที่ 180 ชั้น 10 ศรีวราแมนชั่น เขตดินแดง จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตาม ต่อมา นายเทสซึโอะ ได้เดินทางไปยังห้องพักของนายโยชิโนริ พบ นางพรชนก ที่คบหาเป็นแฟนนายโยชิโนริ อยู่ในท่าทางพิรุธ และเมื่อค้นตัวพบบัตรเอทีเอ็มของผู้ตาย จึงได้แจ้งความในข้อหาลักบัตรเอทีเอ็ม ก่อนที่ผู้ต้องหาจะประกันตัวในชั้นศาลและหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจนทราบว่าได้หลบหนีไปที่ จ.อ่างทอง พร้อมกับ นายสมชาย แก้วบางยาง สามีซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่ จึงได้ทำการคุมตัวทั้ง 2 ไว้

ต่อมา นายสมชาย ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา นางพรชนก ได้นัดให้ไปพบที่บ้านพักภายในหมู่บ้านออร์คิด วิลล่า บ้านเลขที่ 201/237 ถ.บางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ พบ นายโยชิโนริ นอนนิ่งใบหน้าเขียวคล้ำ โดยเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้ร่วมวางแผนทำลายศพ และได้ใช้อาวุธมีดหั่นศพออกเป็นชิ้น ๆ ใส่ถุงปุ๋ย 4 ถุง ก่อนนำใส่ท้ายรถแท็กซี่ไปทิ้งที่สะพานข้ามคลองสนามพลี ถ.บางนาการ์เด้นท์ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ขณะที่ นางพรชนก ยังคงให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม หลังจากการทำบันทึกและตรวจร่างกายผู้ต้องหาแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะได้มีการนำตัวกลับไปยัง สภ.บางเสาธง โดยคาดว่าจะมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันพรุ่งนี้ (24 ตุลาคม)

 

นำ2ผู้ต้องหาฆ่าครูญี่ปุ่นฝากขังสภ.บางเสาธงบ่าย

ร้อยเวร ของ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าคดีฆาตกรรม นายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น ว่า ในวันนี้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัว นางพรชนก ไชยะปะ เพื่อนหญิงคนสนิท และ นายสมชาย แก้วบางยาง สามี ผู้ต้องหาคดีดังกล่าว มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจร่างกาย พร้อมแถลงผลการจับกุมอีกครั้ง

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาตามหมายจับศาลอาญา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดนไตรตรองไว้ก่อน, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง ผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราสจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย" เตรียมนำตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ บ่ายวันนี้ เพื่อฝากขัง ด้านการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังไม่ได้รับการยืนยัน ต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง

 

ตร.เผยผลDNAครูญี่ปุ่นตรงกับชิ้นส่วนมนุษย์

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม รักษาราชการแทนที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนในคดีที่ นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี โซเฟอร์แท็กซี่ และ นางพรชนก ไชยะปะ ร่วมกันฆาตกรรมอำพรางศพ นายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี ครูสอนภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้การทำคดีเป็นไปอย่างรอบคอบรัดกุมมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ รักษาราชการแทนที่ปรึกษา (สบ 10) กลับไปดูสำนวนคดีเก่า ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีญี่ปุ่นที่หายตัวไปอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ เนื่องจากอาจมีส่วนเชื่อมโยงกับคดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ผลการตรวจพิสูจน์ DNA จากกลุ่มงานตรวจชีววิทยา สพฐ. โดย DNA ของ นายโยชิโนริ เทียบเคียงกับ นายเทสสิโอะ ชิมาโตะ บุตรชาย อย่างเป็นทางการ ยืนยันว่า ชิ้นส่วนอวัยวะที่ถูกพบในคลองนางทิ้ม ย่านบางนาตราด จำนวน 4 ถุง เป็นของ นายโยชิโนริ จริง ซึ่งสอดคล้องตามคำรับสารภาพของผู้ก่อเหตุ

 

ตร.ส่ง2ผัวเมียฆ่าญี่ปุ่นให้ท้องที่-ผู้ต้องหาเครียด

พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รรท. รอง ผบ.ตร. เปิดเผยหลังคุมตัว นางพรชนก ไชยะปะ และ นายสมชาย แก้วบางยาง สามี ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม นายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น อายุ 79 ปี มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบร่วมระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ ตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อสอบสวนผู้ต้องหาอีกครั้ง ก่อนการควบคุมตัวไปชี้จุด และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเร็ววันนี้ พร้อมทั้งมีการจัดเจ้าหน้าที่ปราบจลาจล ภ.จว.สมุทรปราการ จำนวนกว่า 20 นายดูแลผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิดหวั่นเกิดอาการเครียด คลุ้มคลั่ง

โดยเฉพาะ นางพรชนก ที่มีอาการเครียดตลอด หลังเจ้าหน้าที่หารนำตัวส่งให้กับ จนท.ตร.กองบัญชาการตำรวจนครบาล ด้านผลการตรวจดีเอ็นเอชิ้นเนื้อที่พบในคลองนางทิ้ม แพทย์ยืนยันตรงกับดีเอ็นเอของนายโยชิโนริ

 

ลูกทานากะอดีตสามีพรชนกขอตร.รื้อคดีพ่อตาย

ที่ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นางพรชนก ไชยะปะ และ นายสมชาย แก้วบางยาง สามี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าตกรรม นายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น อายุ 79 ปี มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง นางเค็กโกะ มัตตา อายุ 31 ปี ลูกสาวของนายคาชิโตชิ ทานากะ ชาวญี่ปุ่นที่เคยอยู่กินกับนางพรชนก และเสียชีวิตจากการตกบันได ก็ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบถาม และเรียกร้องให้รื้อคดีการเสียชีวิตของบิดา ขึ้นมาสอบสวนอีกครั้ง เพราะยังติดใจการเสียชีวิตของผู้เป็นบิดาอยู่

โดย นางเค็กโกะ เปิดเผยว่า ก่อนที่บิดาจะเสียชีวิตประมาณ 2 สัปดาห์ บิดาได้ทำประกันสังคมไว้ และบอกว่าหากพ่อเป็นอะไรไปลูกจะได้รับเงินประกันคนละหนึ่งล้านบาท ซึ่งหลังจากที่บิดาได้เสียชีวิตลง นางพรชนกก็บอกว่าบิดาได้ดื่มแอลกอฮอล์หนักทำให้เมาจนตกบันได จากนั้นนางพรชนกได้ติดต่อมาเพื่อให้ตนกับพี่สาวฝาแฝดเซ็นเอกสารเกี่ยวกับเงินประกัน ซึ่งในเอกสารเป็นภาษาญี่ปุ่น ตนอ่านไม่ออก จึงตัดสินใจเซ็นไปก่อนด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ หลักจากนั้นก็รอเงินประกันแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อ จึงติดต่อไปสอบถามกลับบริษัทประกัน กลับได้คำตอบว่าเงินได้จ่ายออกไปแล้ว และอีกอย่างที่น่าแปลกใจคือ ถ้าคนต่างประเทศเสียชีวิตจะต้องมีหนังสืออนุญาติจากสถานทูต ถึงจะสามารถนำตัวออกจาก ร.พ.ได้ แต่นางพรชนกไปเอาศพออกมาได้อย่างไรไม่รู้ รวมทั้งรีบร้อนทำพิธีเผา ซึ่งมองว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ::::::

ตร.จ่อนำ2ผัวเมียฆ่าหั่นศพครูญี่ปุ่นมาบชน.ก่อนพาทำแผน

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=574289

 

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook