ป๋าเทพ ตกอับ! ขายบ้านใช้หนี้ แฟนคลับเปิดธุรกิจช่วย

ป๋าเทพ ตกอับ! ขายบ้านใช้หนี้ แฟนคลับเปิดธุรกิจช่วย

ป๋าเทพ ตกอับ! ขายบ้านใช้หนี้ แฟนคลับเปิดธุรกิจช่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากล้มลุกคลุกคลานกับการทำธุรกิจส่วนตัวจนไม่ประสบความสำเร็จมาอย่างนับไม่ถ้วน อีกทั้งหนี้สินที่ประดังเข้ามาในช่วงชีวิตบั้นปลาย จนถึงขั้นเคยมีข่าวเม้าท์ออกมาว่าตลกหนุ่มรุ่นใหญ่ "เทพ โพธิ์งาม" เตรียมหันหลังให้วงการแล้ว แต่คนอย่างป๋าเทพหรือจะยอมแพ้ต่อโชคชะตาชีวิต เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ไปอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่มีทางหันหลังให้วงการที่รักเด็ดขาด อาจมีบ้างที่เบื่อ ๆ อยากหาอย่างอื่นทำเพิ่ม

และล่าสุดป๋าเทพก็ได้เชิญสื่อมวลชนให้ไปงานเปิดร้านอาหาร หมูกระทะขั้นเทพ ย่านซ.ลาดพร้าว101 แยก39 ที่เหมือนเป็นการการันตีว่าป๋าเทพยังไม่ยอมแพ้ ขอต่อสู้และดิ้นรนเพื่อชีวิตและครอบครัวอีกครั้ง โดยครั้งนี้เจ้าตัวได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ยอมขายบ้านที่ศาลายาเพื่อลดหนี้สินบางส่วนลงแล้ว ด้านเรื่องของร้านหมูกระทะที่ทำนี้ ป๋าเทพบอกไม่มีเงินทุนที่จะลง แต่ฝ่ายหุ้นส่วนติดตามผลงานและชื่นชอบเป็นการส่วนตัว เลยได้ให้ป๋าเทพมาช่วยลงแรงดูแลจัดการร้านนี้เหมือนหุ้นส่วนอีกคน

เป็นมาอย่างไรกับการมาทำธุรกิจนี้ ?
"เราก็ไม่คิดหรอกว่าจะได้เจอคนนี้เข้า คนที่มาชวนเราทำ ป๋าก็ไม่ได้อะไร พอเจอกันนิดหน่อยเขาก็ชวน เราเลยลองดูบ้างซะที ก็ดีเหมือนกัน เพราะเราเบื่อหน่ายทางวงการนี้มามากแล้วไง อยากจะเจอทางใหม่ๆ ก็มาได้เจอเลยขอลองดู อีกอย่างตรงนี้เราก็ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมายครับ เป็นทุนของเขา เราเพียงแต่ให้เขาเอาภาพเรามาใช้ เขาก็ให้เราเป็นหุ้นส่วนนั้นแหละ"

ตรงนี้เรามีส่วนช่วยอะไรเขาบ้าง ?
"ก็ช่วยในทางบันเทิงอะไรพวกนี้ คอยจัดการดูแลทั้งหมด ช่วยๆกัน"

ส่วนตัวได้ใช้เงินลงทุนครั้งนี้บ้างไหม ?
"ป๋าไม่ได้ไปลงหรอก เอาเงินที่ไหนไปลง เราเอาชื่อเสียงเรามาและมาเปิดเป็นร้านอย่างนี้ เขามีหุ้นกันแค่ 2 คนเอง ระหว่างเขากับป๋าเอง"

ทำไมเขาถึงตัดสินใจให้เราเป็นหุ้นส่วน ทั้งๆที่ไม่ได้ลงเงิน ?
"ไม่รู้ เขาก็บอกดูป๋ามานานก็ชอบอะไรแบบนี้ พอทำตรงนี้เขาก็มาปรึกษา เราก็ว่าดีนะมันเป็นทางใหม่ของเรา เพราะเราไม่เคยมาทางนี้ ก็มาลองดู ไม่ได้เสียหายอะไร"

รู้จักกับเขาได้อย่างไร ?
"รู้จักโดยบังเอิญเลย ไปเจอกันที่จอดรถ ก็คุยๆกัน ขอเบอร์กันไว้ และไม่รู้ว่ามายังไง ยังคงงงๆเหมือนกัน"

หลายคนยังตกใจว่าทำไมถึงมาลงหุ้นอีก เพราะว่าป๋าเคยทำธุรกิจกับเพื่อนและมีปัญหา ?
"ไม่ต้องตกใจหรอก เพราะว่าป๋าไม่มีเงินไปลงกับเขาหรอก (หัวเราะ)"

กลัวจะมีปัญหาอีกไหม ?
"ถ้ามีปัญหาป๋าก็ไม่กลัว เพราะว่าปัญหามันสามารถที่จะเกิดได้ ไม่เป็นไรนิ เราก็ทำไป ระหว่างที่เราทำเจออะไรบ้าง ก็แก้ไขไปตรงนั้นเลย ป๋าว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องแน่นอนคนเราทำด้วยกันจะต้องมีเลิกรากันอยู่แล้ว"

ในเรื่องของรายได้ส่วนแบ่ง ในเมื่อเราไม่ได้ลงทุน แล้วแบ่งกันอย่างไร ?
"ก็โอเคแหละ เขาก็ให้เกียรติเรา ก็เรียกว่าพอได้ เราก็ดูถ้าเกิดว่าอย่างที่เขาพูดเราก็โอเค"

เตรียมรับมือกับปัญหา ที่จะเกิดขึ้นหรือยัง ?
"ป๋าไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น มันอาจจะเรื่องการเงินไม่ถูกต้อง แต่ป๋าก็พยายามเคลียร์กับเขาให้รู้เรื่อง ประสบการณ์ป๋ามีผ่านมาเยอะ คนเราเมื่อดีกันแล้ว ทำดีด้วยกันแล้ว ทำไปข้างหน้าให้มันเจริญดีกว่า ดีกว่ามาทะเลาะกัน ก็พูดตรง ๆ เขาเคยทำให้สมรักษ์ คำสิงห์ มาแล้วคนเดียวกัน"

ประสบการณ์ล้มลุก คลุกคลานเราเยอะ นำมาปรับใช้กับครั้งนี้อย่างไรบ้าง ?
"เราก็คิดไว้อย่างเดียวว่า จะลงอะไรก็แล้วแต่ต่อจากนี้ อย่าเอาเงินไปลงทุนแล้วกัน เพราะเราไม่มีเงินไปลงทุนแล้ว เราเสี่ยงแบบนี้คงไม่เจ็บตัวเท่าไหร่หรอก"

มั่นใจกับธุรกิจครั้งนี้แค่ไหน เพราะช่วงนี้ธุรกิจประเภทปิ้งย่างมีเยอะ ?
"ก็ไม่ได้จะคาดหวังอะไรมากมายอย่างที่พูดนั่นแหละ มันก็เยอะนะ เยอะมาก แต่มันอยู่ตรงที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้คนมาร้านเราให้ได้ ร้านทั่วไปส่วนมากจะไม่มีอะไรพิเศษมากมาย แต่เราขนมาทั้งดนตรี ทั้งนักร้อง จ้างวงใหญ่ๆดังๆมา เราจะมีแบบนั้นเลย"

จะมีโอกาสได้เห็นป๋าขึ้นโชว์เล่นตลกที่นี่หรือเปล่า ?
"ป๋าต้องขึ้นตลอดอยู่ๆ ขึ้นๆลงแบบนี้ ร้องเพลงบ้าง กับลูกกับหลาน คอยดูแลบ้าง"

กับข่าวที่ผ่านๆมา คนที่ร่วมหุ้นตอนนี้รับรู้มาตลอดใช่ไหม เขาได้พูดถึง หรือมีกังวลอะไรบ้างไหม ?
"ป๋าก็บอกว่าทุกอย่างถ้าคนเราจะทำด้วยกัน หุ้นด้วยกัน อย่างหนึ่งที่จะต้องปฏิบัติคือ อย่าระแวงกันนะ ทำอะไรอย่าให้เขาสงสัย คนเราถ้าจะแตกกันมันก็เพราะเรื่องตรงนี้แหละ เหมือนกับทำไมไม่บอกฉันล่ะ ไม่อธิบายให้ละเอียด"

ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เราได้ทำ ?
"ป๋าชอบว่ะ ถ้ามีงานใหม่มาเหมือนทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น โลกมันดูสดใสขึ้น"

เป็นเพราะงานในวงการเราห่างหายไปหรือเปล่า เลยต้องหางานตรงนี้เพิ่ม ?
"แน่นอน เพราะป๋าภาระเยอะไง จะไปรอละครกว่าจะมาแต่ละเรื่อง หนังกว่าจะมา ถ้าเราไปรอตรงนั้นอดตายจริงๆ เราก็เลยต้องดิ้นรนไง"

ตอนนี้ยังมีภาระเหลืออีกเยอะไหม ?
"ประมาณโหทั้งชีวิตก็ใช้ไม่หมดหรอก แต่ก็เหลือไม่มากเท่าไหร่แล้ว 5-6 ล้านบาท แต่ตอนนี้บอกขายบ้านไปแล้ว ที่ศาลายา ตอนนี้ก็เช่าบ้านไปก่อน คือถ้ามีตังจริง ๆ ค่อยเอา ถ้าเกิดต้องมาผ่อนไม่เอาอีกแล้ว เพราะรู้ว่าทำเงินมาไม่รู้เท่าไหร่ แต่ได้ใช้ไม่เท่าไหร่เอง เหมือนได้มาร้อยหนึ่ง ได้ใช้จริง ๆ แค่ 40 บาทเอง ไม่ไหว อีก 60 บาทต้องเสียให้เขา จริง ๆ ไปเก็บให้ลูกให้หลานกินจะดีกว่า"

ได้ขายบ้านหลังนี้ไปหรือยัง ?
"ขายครับ ขายแล้ว แต่ว่าเขาจะมาโอนประมาณวันที่ 22 นี้"

ก็ถือว่าตัดหนี้สินออกไปเยอะเหมือนกัน ?
"ครับ ไอ้ตัวเราไม่เป็นไร อยู่ไหนก็ได้ เพียงแต่ว่าถ้าเราไม่มีหนี้สินมากมายน่าจะมีความสุข"

แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน ?
"ตอนนี้ยังอยู่บ้านเก่าอยู่ ยังไม่ได้ย้ายออก เพราะเขาจะมาโอนวันที่22 ส่วนที่ใหม่ยังไม่รู้เลย ยังเป็นสัมภเวสีอยู่ ยังมองอยู่ว่าจะไปทางไหนดีว่ะ แต่ว่าอย่างน้อยเราก็หาเช่าแถวนี้เพราะมันอยู่ใกล้ที่ทำงานเรา"

ทางครอบครัวโอเคใช่ไหมที่เราตัดสินใจแบบนี้ ?
"มันต้องโอเคแหละ มาอย่างนี้แล้ว มันต้องไปด้วยกัน ก็มาด้วยกันแล้ว ถ้าอยากจะฉีกออกไปก็เรื่องของมันแล้วล่ะ"

แล้วที่เคยบอกว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ลาว ?
"นี่แหละ เราจะไปทางนี้ แต่เราไม่ได้ไปทางปลูกผักแล้ว ปลูกผักดูแล้วปัญหาจะเยอะ ไปสืบมาแล้ว เขามีกฎหมายขั้นรุนแรง ก็เลยเปลี่ยนมาแนวนี้ เอาธุรกิจนี้ไป อาจไปตั้งที่เวียงจันทน์เลย ที่พม่าด้วย ทั้งเวียดนาม อะไรแบบนี้ พาร้านขั้นเทพนี่ไปแหละครับ แต่เดี๋ยวเอาทางนี้ให้อยู่ตัวก่อน"

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ ของ ป๋าเทพ ตกอับ! ขายบ้านใช้หนี้ แฟนคลับเปิดธุรกิจช่วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook