คืบหน้าปลากระป๋องชาวดอยเน่า

คืบหน้าปลากระป๋องชาวดอยเน่า

คืบหน้าปลากระป๋องชาวดอยเน่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ล่าสุด กำลังตรวจสอบพยานหลักฐาน ส่วนโรงงานได้ปิดตัวแล้ว นอกจากนี้ อย.ได้ยึดผลไม้กระป๋องจำนวนมากเอาไว้ตรวจสอบจีเอ็มพีด้วย

สำนักงานสาธารณะสุข จ.สมุทรสาคร มีความเคลื่อนไหวกรณีผลสอบของตำรวจ สำหรับ เจ้าของปลากระป๋อง ชาวดอย คือ นายวิชาญ วรมุกสิก เจ้าของ บ.ทองกิ่งแก้วฟู้ดส์ จก.ในเนื้อที่ 20 ไร่ เลขที่ 17/6 ตั้งอยู่ ม.3 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน มอบบริจาคผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.พัทลุง แล้วเกิดการเน่าเสียคากระป๋อง จนทำให้กลายเป็นประเด็นการเมืองขึ้นมา

ล่าสุด นายแพทย์ (หญิง) อรุณศรี บุญมาศิริ เภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภคในฐานะดูแลศูนย์บริการครบวงจรด้านอาหารและยา สธ.สมุทรสาคร และ 1 ในคณะกรรมการผู้ร่วมตรวจสอบ ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.พงษ์สุธรา พิณสุวรรณ ร้อยเวร สภ.กระทุ่มแบน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายวิชาญ โดยจากเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ได้ร่วมกับ สธ. แต่งตั้งคณะสอบสวนกลางขึ้นมาก โดยได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.นริศ เบี้ยกาศ รอง ผกก.สส. เข้ามาทำการสอบสวน และสรุปรายงาน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพบว่า ขณะตรวจสอบพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นเอกสารจากทาง สธ.และพยานรอบข้าง ที่เกี่ยวกับการผลิต โดยมีเรื่องใบอนุญาต และการอนุญาต หรือการลักลอบทำงาน ประเด็นหลัก ส่วนขณะนี้โรงงานได้ปิดตัวไปแล้ว นอกจากนี้ทาง อย. ยังได้ยึดผลไม้กระป๋องจำนวนมากเอาไว้ตรวจสอบ (จีเอ็มพี) อีกด้วย

ขณะที่ พ.ต.ท.นริศ เลี้ยกาส รอง ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน เปิดเผยว่า ผลการสอบสวนล่าสุด ตามสาธารณะสุขจังหวัด มาแจ้งความดำเนินคดี ในส่วนตัวโรงงาน ซึ่งมีการสอบพยาน และเอกสารจากทาง อย.มหาชัยไปบางส่วน อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ระหว่างให้ปากคำเพิ่ม ส่วนประเด็นจะลักลอบผลิต หรือผลิตให้ใคร และปัญหาของเสียขณะนำไปบริจาก ในส่วนนี้กำลังออกหมายเรียกเพื่อรอสรุป ซึ่งมีโทษแค่ปรับ ทั้งนี้ตามที่นางสาวอรุณศรี บุญมาศิริ ในฐานะผู้ร้องเอาผิด ทั้งนี้ ช่วงหลังเกิดเหตุ พบมีเพียงเครื่องติดฉลากขนาดย่อม 2-3 เครื่อง ส่วนเครื่องผลิตอาหารไม่มี และมีซากกระป๋องเล็กๆน้อยๆ กระจายอยู่ในสภาพเก่า

นายวิชาญ วรมุกสิก ผู้จัดการบริษัท ทองกิ่งแก้วฟู้ดส์ จก. กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องขึ้น ตนได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ และได้ให้ปากคำไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งให้ข้อเท็จจริงตามที่เป็นจริง ส่วนสาเหตุใดที่ไปเกิดเรื่องเน่าเสียในงานบริจาคน้ำท่วมนั้น เป็นเหตุที่เกินคาด อย่างไรก็ตาม ได้มีการติดต่อ และจะรับผิดชอบ และเก็บสินค้าคืนมาแล้วทั้งหมด โดยเฉพาะชุดสินค้าที่จำหน่ายหน้าร้าน ที่มีรถเร่มาเหมาซื้อไปทั้งหมด จำนวน 250 กล่อง หรือลัง โดยแต่ละลังบรรจุจำนวน 100 กระป๋อง และสำหรับโรงงาน ขณะนี้ได้หยุดการผลิต เพราะอยู่ในช่วงการปรับปรุง เพื่อซ่อมไว้ทำงานใหม่

นายวิชาญ กล่าวอีกว่า สำหรับด้านตัวสถานที่ของโรงงาน ได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่แรก เป็นช่วงด้านหน้า เป็นโรงงานใช้ผลิต และส่วนหลังลึกเข้าไป สำหรับใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า หรือคลัง ในเนื้อที่ราว 20 ไร่ ในส่วนของโรงงานของตนนั้นมีอยู่ 2 แห่งด้วยกัน ได้แก่ จ.สมุทรสาคร จ.จันทบุรี ซึ่งล่าสุดพึ่งจะลำเลียงผลไม่กระป๋องที่ทำขึ้นจาก จ.จันทบุรี เข้ามาเก็บกองไว้ที่ อ.กระทุ่มแบน ก่อนจะเกิดเรื่องปลากกระป๋องเน่าเสียเมื่อไม่นานมานี้ โดยตนได้รับผลิตให้แก่ผู้สั่ง หรือเซลที่ว่าจ้างสั่งผลิตทุกราย ทั้งนี้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นการผลิตไว้จำหน่ายเองมากกว่า

"ส่วนปลากระป๋องชาวดอย เป็นล็อตสุดท้ายที่ผลิต ก่อนจะมีปัญหาที่สาธารณะสุขตรวจพบ กระทั่งถูกปิดตัวลงไปเมื่อเดือน ส.ค.51 ในข้อกล่าวหาผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งก็ยอมรับความผิดพลาดไปแล้วทั้งหมด นอกจากนี้ในส่วนของโกดังเก็บของนั้น ไม่มีสิ่งใดผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดเจ้าหน้าที่มายึดสินค้าผลไม้ และสับปะรดกระป๋อง ที่ไม่เกี่ยวข้องไป ซึ่งนับว่าไม่ถูกต้อง ทั้งยังเป็นสถานที่เก็บสต๊อกสินค้า และแยกส่วนไว้อย่างชัด และส่วนหนึ่งรอติดฉลากสำหรับผู้สั่ง อย่างไรก็ตาม หากถูกยึดนาน หรือทำให้ตนเสียหาย อาจจะฟ้องศาลปกครองย้อนหลัง ส่วนตนก็มีโทษแค่ปรับ ซึ่งข้อมูลนี้จะเข้าสู่สภา (28ม.ค.)ในรุ่งขึ้น"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook