ศาลส่งตัวพงศ์พัฒน์พร้อมพวกไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพแล้ว

ศาลส่งตัว 'พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์' กับพวกไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แล้ว ด้าน โฆษก สตช. เผย ออกหมายจับอดีต ผบช.ก. และพวก รวม12 คน ให้ประกัน 2 คน ขณะผบ.ตร. แถลงข่าวพรุ่งนี้

ความเคลื่อนไหวที่ ศาลอาญารัชดา ภายหลัง พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน แจ้งกับสื่อมวลชน ว่า ผู้บังคับบัญชา แจ้งว่า ได้ให้ประกันตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีต ผบก.ตำรวจน้ำ และ พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล อดีต ผกก.ตม.สมุทรสาคร ในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว ส่วนรายละเอียดว่าใช้หลักทรัพย์ใดหรือเงื่อนไขในการให้ประกันตัวอย่างไร ยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. จะแถลงรายละเอียดการจับกุมคดีนี้ ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ภายหลังมีการแจ้งกับสื่อมวลชนแล้ว หลายสื่อก็เดินทางออกจากศาลอาญา แต่ยังมีบางส่วนนั่งส่งภาพและรายงานข่าว บริเวณที่นั่งใต้ถุนศาลอาญา ใกล้กับทางเดินส่งตัวผู้ต้องหา ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็เชิญสื่อออกจากที่นั่งและให้ไปยืนอยู่ในระยะไกล พร้อมกับเคลียร์เส้นทางด้านหลังศาลอาญา นำแผงเหล็กมากั้นไว้ ไม่ให้นักข่าวเข้าไปใต้ถุนศาล พร้อมสั่งห้ามถ่ายภาพ จากนั้น ได้มีรถ ตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.ศูนย์สืบ บช.น. เดินทางมาด้วย และมีรถตู้ตำรวจ 3 คัน ขับเข้ามาด้านหลัง เมื่อประตูเปิดออก พบว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกคุมตัวลงมา สวมเสื้อยืดคอกลม สีขาว มีสีหน้าเคร่งเครียด และ นายตำรวจคนอื่น รวม 3 คน ก็ถูกคุมตัวเข้าไปยังห้องส่งตัวผู้ต้องหาใต้ถุนศาลอาญา และศาลอยู่ระหว่างพิจารณาคำร้องของพนักงานสอบสวน

 

ศาลส่งตัว 'พงศ์พัฒน์' พร้อมพวก ไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แล้ว

ความคืบหน้าการฝากขัง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีตผู้บังคับการตำรวจน้ำ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว มาขออำนาจศาลฝากขัง ที่ศาลอาญา ล่าสุด ศาลได้พิจารณาคำร้องพนักงานสอบสวนแล้ว มีคำสั่งให้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน รวมทั้ง พล.ต.ต.โกวิทย์ และ พล.ต.ต.บุญสืบ ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นั้น พนักงานสอบสวนได้รับตัวกลับไปสอบสวนต่อ แต่ยังไม่ระบุสถานที่ ซึ่งภายหลังสอบสวนแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนก็จะคุมตัวส่งเรือนจำต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้คัมตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ออกไปจากศาลอาญาแล้ว รวมถึงผู้ต้องหาที่เหลือก็ถูกคุมตัวส่งเรือนจำแล้วเช่นกัน

 

โฆษก สตช. เผย ให้ประกันตัวแค่ 2 คน ผบ.ตร.แถลงข่าวพรุ่งนี้

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และโฆษก สตช. กล่าวถึงกรณีการออกหมายจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพวกว่า ในกรณีนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 12 คน โดยตำรวจทั้ง 7 คนนั้น มีการควบคุมตัวตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมด้วย นางสวงค์ มุ่งเที่ยง ส่วน นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช นั้นได้หลบหนีไปก่อน แต่ล่าสุดควบคุมตัวได้แล้วที่ จ.เชียงราย และอยู่ระหว่างนำตัวมาดำเนินคดี ส่วน นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล ภรรยา พ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล อดีต ผกก.ตม.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาในคดีบุกรุกป่า เพิ่งเข้ามอบตัวในวันนี้ และต่อมาออกหมายจับเพิ่มและจับกุม นายชอบ ชิณประภา และ นางติยะพรรณ ชิณประภา สองสามีภรรยาได้ ทั้งนี้ สำหรับ นายชอบ และ นางติยะพรรณ นั้น ร่วมกระทำผิดกับกลุ่ม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 และ 5 โดยมีพฤติการณ์เป็นนอมินี นำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปฟอก ส่วนนางสวงค์ และ นายเริงศักดิ์ นั้น ทำร้านค้าของเก่า งาช้าง สัตว์ป่า ซึ่งพัวพันกับของกลางที่ยึดได้

โดย พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าได้ตัวผู้ต้องหาที่ออกหมายจับครบแล้ว และนำตัวฝากขังแล้ว เหลือเพียง นายเริงศักดิ์ ที่กำลังเดินทาง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้ประกันตัว เพียง 2 คน คือ พ.ต.อ.โกวิทย์ และ นางสุดาทิพย์ ภรรยา เนื่องจากทั้งคู่ทำผิดในข้อหาบุกรุกแผ้วถางป่า รุกล้ำลำธาร สร้างอาคารในลำคลองเท่านั้น จึงให้ประกันในชั้นพนักงานสอบสวน ส่วนคนอื่น ๆ รวมทั้ง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ไม่มีการให้ประกันตัวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะทำการแถลงข่าวรายละเอียดในคดีนี้อีกครั้ง โดยจะนำภาพของกลางที่ยึดได้แสดงต่อสื่อมวลชน แต่ไม่มีการนำผู้ต้องหามาร่วมแถลงแต่อย่างใด

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :::

รวบอีก2โยงคดีพงศ์พัฒน์รอมอบตัว1-สมยศตั้งสอบวินัย
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=581377