ค่าปรับถูกไปมั้ย?! ยาลดความอ้วน OHO โกยรายได้หลายร้อยล้าน!

ค่าปรับถูกไปมั้ย?! ยาลดความอ้วน OHO โกยรายได้หลายร้อยล้าน!

ค่าปรับถูกไปมั้ย?! ยาลดความอ้วน OHO โกยรายได้หลายร้อยล้าน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ทหารและสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกบุกยึดโกดังผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน OHO เพราะตรวจพบสาร "ไซบูทรามีน" สารอันตรายที่องค์การอาหารและยา (อย.) ห้ามใช้ตั้งแต่ปี 2553 ตามข่าวระบุว่ามีการแจ้งข้อหาทั้งหมด 5 ข้อหา ที่มีโทษปรับทั้งหมดดังต่อไปนี้

1. จำหน่ายอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ หกเดือน ถึง สิบปี และปรับ ตั้งแต่ 5,000 ถึง 100,000 บาท
2. จำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
3. จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. โฆษณาคุณประโยชน์และคุณภาพหรือสรรพคุณของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
5. ขายเครื่องสำอางแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน สามเดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเสริม OHO เคยให้สัมภาษณ์ออกสื่อว่ามีรายได้ 500 ล้านบาทจากการขายสินค้าเหล่านี้ทางอินเทอร์เน็ต มีตัวแทนจำหน่ายบนเฟซบุ๊กมากกว่า 3,000 ราย จะเรียกว่าเป็นองค์กรใหญ่ที่มีเครือข่ายก็คงไม่ผิด เพราะทำเป็นขบวนการ

กดเครื่องคิดเลขรวมจำนวนค่าปรับแบบสูงสุดในแต่ละข้อหาแล้วพบว่าเป็นเงิน 175,000 บาท ไม่ถึง 0.1% ของยอดขายที่เจ้าของธุรกิจคุยโวว่าโกยไปแล้วกว่า 500 ล้านบาท! 

ต้องทำความเข้าใจว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแจ้งข้อหาในเบื้องต้นก่อนที่จะมีการส่งฟ้องเพื่อให้ผู้ต้องหาสู้คดี จนกระทั่งศาลตัดสิน เจ้าของธุรกิจอาจจะไม่ถูกปรับตามโทษสูงสุดที่กฎหมายระบุไว้ก็ได้ แปลว่าอาจจะน้อยกว่า 175,000 บาท หรือถูกยกฟ้องในบางข้อหา

และที่เลวร้ายกว่านั้น การถูกจับกุมไม่ได้แปลว่าจะไม่มีสินค้าเหล่านี้ขายในตลาดอีก อย่างที่บอกไปแล้วว่ามีตัวแทนจำหน่ายเป็นพันราย และยังมีผู้บริโภคจำนวนมากที่รู้ไม่เท่าทันด้านมืดของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้

จริง ๆ แล้ว พรบ.อาหารถูกประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2522 ดังนั้นจะมีโทษปรับเป็นตัวเลขอย่างที่เราเห็นก็คงไม่แปลก แต่มันก็น่าจะถึงเวลาแล้วที่ผู้เกี่ยวข้องจะพิจารณาเรื่องการเพิ่มโทษปรับให้สอดคล้องกับค่าเงินในปัจจุบัน และถ้าจะปรับกฏหมายเพิ่มโทษในข้อหาเหล่านี้ ก็ต้องบอกว่า "ตอนนี้" คือช่วงที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีขายกันเกลื่อนเมือง หาง่ายพอ ๆ กับข้าวราดแกงหรือร้านส้มตำ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกที่ควรเลย

ทั้งที่โทษภัยของผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นที่ประจักษ์ชัด แต่โทษปรับช่างเล็กน้อยเสียเหลือเกิน 

อันตรายของสารไซบูทรามีน

สารไซบูทรามีนที่อยู่ในผลิตภัณฑ์จะก่อให้เกิดโรคความดันสูง หัวใจเต้นเร็ว ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ และท้องผูก ส่วนคนที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันสูง โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคไต สารดังกล่าวก็จะยิ่งกระตุ้นอาการเหล่าให้หนักขึ้น พูดง่ายๆ คือถ้าไม่อยากเสียชีวิตด้วยโรคชราก็กินเข้าไปเถอะ นี่คือทางลัด

ไม่เพียงแค่สร้างผลกระทบกับร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีผู้ป่วยอีกหลายรายที่เข้ารับการบำบัดทางจิตเพราะกินยาเหล่านี้เข้าไป 

นี่ยังไม่นับเรื่องเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ทั้งที่มีรายได้หลายร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นประเด็นที่ควรจะได้รับการติดตามต่อไป

เชื่อว่า OHO คงไม่ใช่สินค้าตัวเดียวในท้องตลาดที่มีสารอันตรายผสมอยู่ และไม่ใช่รายเดียวที่มีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงเมื่อในโลกออนไลน์ค้นหาอะไรก็เจอ นี่คืออีกหนึ่งปัญหาในสังคมที่รอการกวาดล้างอย่างจริงจังเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีคนตกเป็นเหยื่ออีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook