สมยศเปิดกรุพงศ์พัฒน์โชว์พระทองรถหรูจ่อชงปปง.สอบ

สมยศเปิดกรุพงศ์พัฒน์โชว์พระทองรถหรูจ่อชงปปง.สอบ

สมยศเปิดกรุพงศ์พัฒน์โชว์พระทองรถหรูจ่อชงปปง.สอบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำสื่อเปิดกรุทรัพย์สินจำนวนมากที่ยึดได้จาก อดีต ผบช.ก.ระบุ ส่วนคำให้การไม่สามารถเปิดเผยได้ ด้าน ตร.ปทส.นำผู้ต้องหาร่วมฝากขังศาลอาญา ขณะมีคำสั่งให้ 'พล.ต.ต.ชัยทัต'ช่วยงานสง.นรป.

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำคณะสื่อมวลชนเปิดทรัพย์สินของกลางที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ภายหลังการจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมพวก ผู้ต้องหาในฐานความผิดตามมาตรา 112 เรียกรับผลประโยชน์และผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน ที่มีจำนวนมหาศาล ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพที่สถานที่แห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ของกลางที่ได้มานี้เป็นการร่วมกันจับกุมระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร และทรัพย์ที่เปิดให้สื่อมวลชนบันทึกภาพนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของทรัพย์ที่ยึดมาได้ อาทิ พระพุทธรูปโบราณ ทองคำแท้ 24 แท่ง กรอบพระเหลี่ยมทอง 225 กรอบ สร้อยคอทองคำ 224 เส้น ทองคำขาว 180 กก. โฉนดที่ดินมูลค่า 418 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งของกลางประเภทวัตถุโบราณได้มอบให้กรมศิลปากรตรวจสอบ

สำหรับทรัพย์สินอื่น ๆ จะส่งให้ ปปง. ตรวจสอบ และเพื่อให้สำนวนคดีมีหลักฐานแน่นหนาและรัดกุมได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร ร่วมตรวจสอบโดยการเก็บดีเอ็นเอพิมพ์ลายนิ้วมือหลักฐานต่างและของกลางที่เกี่ยวข้องว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ใดบ้าง

ส่วนการให้การของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นั้น เป็นเรื่องในสำนวนและอาจเกี่ยวข้องกับคนอื่น ๆ ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

นอกจากนี้ ยังมีของกลางอื่น ๆ ที่เคลื่อนย้ายลำบาก อาทิ ไม้สัก ไม้ยาง ไม้มะค่า และไม้หายากที่ต้องใช้รถบรรทุกขนย้ายกว่า 80 คัน ซึ่งจะส่งให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ ออป. ตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเก็บรักษาของกลางทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ทหาร ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและปลอดภัย

 

ตร.ปทส.นำผู้ต้องหาร่วมแก๊งอดีตผบช.ก.ฝากขัง

พ.ต.ท.วีระวุฒิ บำรุงสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส) ได้ควบคุมตัว นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช อายุ 57 ปี ชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาคดีครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก โดยระบุในคำร้องสรุปว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ได้ร่วมกันตรวจค้น สวงค์ อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ของผู้ต้องหา กับ นางสวงค์ มุ่งเที่ยง พบงาช้างแกะสลัก 7 ชิ้น, ซากเต่าทะเล 1 ซาก, เขากวาง 1 คู่ และเขากระทิง 2 คู่ ซุกซ่อนอยู่ ต่อมาจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ได้ขออนุมัติหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 จับกุมผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ใน ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำพยานอีก 4 ปาก รอผลการตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือ และรอผลการตรวจซากสัตว์ของกลาง จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน - 7 ธันวาคมนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการประกัน เพราะเกรงจะหลบหนี เนื่องจากผู้ต้องหานี้มีพฤติการณ์กระทำผิดในลักษณะเกี่ยวข้องร่วมครอบครองทรัพย์สินเป็นซากสัตว์ ไม้แปรรูป และสิ่งของอื่น ๆ จำนวนมาก กับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. กับพวก ซึ่งถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้ โดยถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดฐานฟอกเงิน และใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ ดูหมิ่นเบื้องสูง   ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

 

หน.กลุ่มทะเบียนคลังฯเผยจะทำบัญชีคัดวัตถุโบราณ

นางพัชรินทร์ ศุขประมูล หัวหน้ากลุ่มทะเบียนคลัง พิพิธภัณฑ์และสารสนเทศ สำนักพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ กรมศิลปากร เปิดเผยภายหลัง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดทรัพย์สินของกลางที่ยึดได้จากบ้านพัก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. กับพวก ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ว่า จะมีการจัดทำบัญชีเพื่อคัดแยกวัตถุหลักฐานทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัตถุโบราณที่หายาก และจะต้องตรวจสอบว่าวัตถุโบราณเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร รวมถึงอาจมีบางส่วนเป็นวัตถุโบราณแท้และสร้างขึ้นเพื่อหลอกเลียนแบบหรือไม่

อย่างไรก็ตาม นางพัชรินทร์ กล่าวอีกว่า วัตถุโบราณดังกล่าวบุคคลทั่วไปมีสิทธิเป็นเจ้าของได้หากวัตถุนั้น ๆ มีที่มาที่ไปอย่างถูกต้องหรือตกถอดมาตามบรรพบุรุษ

 

ผบ.ตร. มีคำสั่ง โยก ผบก.ป. ไปปฏิบัติราชการที่ นรป.

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 643/2557 ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 เรื่องให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการโดยในคำสั่งดังกล่าวระบุว่า เพื่อให้การปฏิบัติราชการของนายตำรวจราชสำนักประจำและสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพอาศัยตามความในมาตรา 11 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และข้อ 8 (1) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 จึงยุติการให้ พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ ผบก.ป. ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ตามคำสั่ง ตร. ที่ 615/2557 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 ให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงาน
นายตำรวจราชสำนักประจำ (สนง.นรป.) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บัญชาการสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำมอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง


 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook