ตร.คุม5คนแก๊งพงศ์พัฒน์ขัง28พ.ย.ยังไม่ขอหมายจับเพิ่ม

ตร.คุม5คนแก๊งพงศ์พัฒน์ขัง28พ.ย.ยังไม่ขอหมายจับเพิ่ม

ตร.คุม5คนแก๊งพงศ์พัฒน์ขัง28พ.ย.ยังไม่ขอหมายจับเพิ่ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจ ชี้ 5 ผู้ต้องหา เครือข่าย อดีต ผบช.ก. ที่ถูกจับเพิ่ม เบื้องต้นเข้าข่ายผิดจริง - พรุ่งนี้นำตัวไปฝากขังศาลจังหวัดพระโขนง ขณะ สตช. ตั้งกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินอดีต ผบช.ก. เชื่อยังมีซุกซ่อนไว้อีกมาก

พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก.สน.พระโขนง กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ นายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหาที่อยู่ในเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ว่า จากการตรวจสอบพฤติกรรม เบื้องต้น เข้าข่ายความผิดในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย ต่อชีวิตร่างกายหรือเสรีภาพ โดยมีอาวุธโดยร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น และร่วมกันลักทรัพย์

ซึ่งคดีนี้ อยู่ในอำนาจของศาลจังหวัดพระโขนง ซึ่งจะต้องคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนงในวันพรุ่งนี้ แต่วันนี้พนักงานสอบสวนจะคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติม และหากพบว่ามีพยานหลักฐาน ที่เข้าข่ายความผิดอื่นที่มีอัตราโทษสูงกว่าอำนาจของศาลจังหวัดพระโขนง ก็อาจทำให้คดีไปอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลอาญาได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็อาจมีการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

 

ประวุฒิเร่งขยายผลคดี'พงศ์พัฒน์'ของกลางรอนับเพียบ

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยในรายการ ไอ.เอ็น.เอ็น.ร่วมด้วยช่วยกัน ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กับพวก ร่วมกันกระทำความผิดเรียกรับผลประโยชน์ทั้งบ่อนการพนันและส่วยน้ำมันเถื่อนว่า ในช่วงวานนี้ได้มีการนัดสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบและชี้แจงรายละเอียดถึงของกลางแต่ละชิ้น ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร ขณะเดียวกันได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 5 ราย ซึ่งมีการแอบอ้างและมีลักษณะเป็นแก๊งทวงหนี้ โดยคาดว่าจะสามารถจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด เพราะจากหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่มีนั้น สามารถระบุรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องแคบลงมาแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ยังคงมีการสืบสวนและขยายผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีบ้านพักอีกหลายหลังที่ยังไม่ได้ทำการตรวจค้นเพื่อหาของกลางและหลักฐานเพิ่มเติม

ขณะเดียวกันด้วยหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในภาคใต้ โดยจะต้องทำการสืบสวนอย่างละเอียดต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังคงอยู่ในขั้นตอนสอบสวนของพนักงานสอบสวน หลังจากทำเรื่องขออนุญาตรับตัวจากศาล เพราะยังต้องมีการชี้ของกลางอีกหลายชิ้น และหลังจากนี้จะได้มีการเตรียมส่งเรื่องให้ทาง ปปช. ดำเนินการภายใน 30 วัน เพราะเป็นการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ

 

สตช.ตั้งสอบทรัพย์สินอดีตผบช.ก.เชื่อมีซุกอีก

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา 1 ชุด เพื่อพิจารณาเรื่องของกลางที่ยึดได้ในคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพวก ซึ่งพบว่ามีทั้งหมดเกือบ 20,000 ชิ้น โดยในส่วนของทรัพย์สินที่เป็นวัตถุโบราณ จะส่งให้กรมศิลปากร ตรวจสอบความถูกต้อง ส่วนทรัพย์สินที่เป็นไม้แปรรูป จะส่งมอบให้กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ทั้งนี้ เชื่อว่ายังมีทรัพย์สินอีกจำนวนมากที่มีการซุกซ่อนไว้ในหลายจุดภายใน
ประเทศไทย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่า มีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินไปเก็บไว้ในต่างประเทศ ซึ่งทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ในขณะนี้ทั้งหมดจะมีการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงและเก็บดีเอ็นเอ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่า ยังมีบุคคลใดอีกหรือไม่ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้

สำหรับการดำเนินคดีกับ นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และ นายชากานต์ ภาคภูมิ ซึ่งเป็นผู้ต้องหากลุ่มล่าสุดที่ถูกจับกุมได้ในคดีนี้ พบว่า ทั้งหมดมีพฤติกรรมในการบังคับข่มขู่ ทวงหนี้ หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกรรโชกทรัพย์ เพื่อหาประโยชน์โดยมิชอบ และพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลพระโขนงฝากขังในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ส่วนการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมนั้น ยังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่ม

ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังยืนยันว่า หลังเกิดเหตุขวัญและกำลังใจของข้าราชการตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยังดีอยู่ โดยจะมีการเรียกประชุมเพื่อชี้แจงและมอบนโยบายให้ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอีกครั้ง พร้อมระบุว่า ตำรวจนายใดที่ทำหน้าที่ด้วยความสุจริต ก็ไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวกับคดีที่เกิดขึ้น

 

ผบ.ตร.สั่งสืบเชิงลึกอดีตผบช.ก.-พร้อมพบชูวิทย์

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้สืบสวนทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ทั้งในเรื่องของการทุจริตการซื้อขายตำแหน่ง การค้าน้ำมันเถื่อน โดยให้ทีมสืบสวนเจาะทุกประเด็นในเชิงลึกว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง ให้ดำเนินการทั้งหมดตามที่หลักฐานสาวไปถึง หากเป็นข้าราชการตำรวจให้ดำเนินการทางวินัย เบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลว่ามีผู้กระทำผิดเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ นายชูวิทย์ ได้เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับเผยชื่อย่อนายตำรวจระดับสูงที่พัวพันกับเครือข่ายดังกล่าวนั้น ทาง ผบ.ตร. พร้อมที่จะพบ นายชูวิทย์ และขอให้มาพบได้เลย โดยประสานผ่าน ผบ.ตร. โดยตรงก็ได้

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook