ตร.คุม5ผู้ต้องหาโยงพงศ์พัฒน์ฝากขัง-ออกหมายจับอีก5

ตร.คุม5ผู้ต้องหาโยงพงศ์พัฒน์ฝากขัง-ออกหมายจับอีก5

ตร.คุม5ผู้ต้องหาโยงพงศ์พัฒน์ฝากขัง-ออกหมายจับอีก5
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่ นำ 5 ผู้ต้องหา เอี่ยว อดีต ผบช.ก. มาฝากขังที่ ศาลจังหวัดพระโขนง แล้ว ค้านการประกันตัว ผู้ต้องหารับสารภาพทั้งหมด ขณะที่ ผบก.น.5 เผย ศาลออกหมายจับเพิ่ม 5 รายเจ้าหน้าที่เร่งติดตาม

ความเคลื่อนไหวที่ศาลจังหวัดพระโขนง พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ สน.ลุมพินี และ สน.ท่าเรือ ควบคุมตัว นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) มาขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน เมื่อเวลา 12.20 น. ด้าน นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และ นายชากานต์ ภาคภูมิ พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง และ สน.วัดพระยาไกร ได้คุมตัวผู้ต้องหามาฝากขังเวลา 12.31 น.

ด้านข้อหาของผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือเสรีภาพ, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ร่วมกันลักทรัพย์, หมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ความผิดฐานมีอาวุธปืนและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยพนักงานสอบสวนขัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และผู้ต้องหา ทั้ง 5 รายให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

สำหรับบรรยากาศ มีสื่อมวลชนจากหลายสำนักปักหลักติดตามความเคลื่อนไหวบริเวณด้านหน้าอย่างใกล้ชิด

 

ศาลออกหมายจับเพิ่ม5รายโยงอดีต ผบช.ก.

พ.ต.อ.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) ศาลอาญารัชดาภิเษก อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 5 ราย หลังมีพฤติกรรมขู่กรรโชก โดยใช้อาวุธกับเจ้าหนี้เพื่อให้ลดจำนวนหนี้จาก 100 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท โดยผู้เสียหายได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกออกหมายจับนั้น เป็นกลุ่มเครือข่ายเดียวกับ นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา  นายชากานต์ ภาคภูมิ เครือข่ายของ อดีต ผบช.ก. ที่ก่อเหตุในพื้นที่ สน.พระโขนง และถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ อยู่ระหว่างติดตามจับกุม ส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ

 

โฆษกสตช.เผยพงศ์พัฒน์ขนเงินลงทุนตปท.

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์  อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พบว่า มีการนำเงินสดบางส่วนออกนอกประเทศไปเพื่อร่วมลงทุน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามเส้นทางทางการเงิน และทรัพย์สินที่ยังอยู่ภายในประเทศ ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนคดีภายใน 30 วัน เพื่อส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบ พร้อมระบุยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการโอนย้ายคดีดังกล่าวไปเป็นคดีพิเศษแต่อย่างใด

นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวยอมรับว่า กรณี พ.ต.อ.ชาตรี รุ่งดำรงค์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่ยื่นใบลาออกจากราชการ ถือว่า เป็นสิทธิส่วนตัว สามารถทำได้ และหากจะกลับเข้ารับราชการอีกก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น เชื่อได้ว่าสาเหตุที่ลาออกครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก ถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน แต่ส่วนตัวของ พ.ต.อ.ชาตรี ยังไม่พบความผิด หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว

 

เหยื่อแจ้งความคดี5ผู้ต้องหาเอี่ยวพงศ์พัฒน์

พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องหา 2 คดี ท้องที่ สน.พระโขนง และท้องที่ สน.วัดพระยาไกร โดยมี นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา และ นายชากานต์ ภาคภูมิ ร่วมก่อเหตุทั้ง 2 คดี รายละเอียดของคดี ท้องที่ สน.วัดพระยาไกร เหตุเกิดเดือน มิ.ย. 57 ผู้เสียหายเป็นเจ้าหนี้มูลค่า 100 กว่าล้านบาท กลุ่มผู้ต้องหาก็ไปเจรจาและข่มขู่ผู้เสียหายบังคับให้ลดหนี้ลงเหลือประมาณ 20 ล้านบาท ผู้ต้องหาพยายามจะไปอุ้มแต่ผู้เสียหายขัดขืน ส่วนคดีท้องที่ สน.พระโขนง กลุ่มผู้ต้องหาไปทวงหนี้ผู้เสียหายมูลค่า 30 ล้านบาท โดยข่มขู่และกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหาย กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมรับจ้างทวงหนี้ และบังคับให้ลดหนี้ จากนั้น ก็หักรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์ อาจจะร้อยละ 20-30 ส่วนผู้ต้องหามีข้าราชการไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัดเจน

พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.วัดพระยาไกร กล่าวถึงศาลขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมว่า หลัง
จากศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว แต่ฐานความผิดในข้อหามาตรา 112 คดีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการยึดอำนาจ พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร จึงต้องไปขออำนาจศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับผู้ต้องหา ส่วน นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา และ นายชากานต์ ภาคภูมิ พนักงานสอบสวนได้ประสาน สน.พระโขนง อายัดตัวไว้ดำเนินคดีต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ที่ออกหมายจับเพิ่มเติมนั้น 1 ใน 5 เป็นทหารยศจ่า ล่าสุด ต้นสังกัดควบคุมตัวเอาไว้แล้ว

 

5ผู้ต้องหาเอี่ยวพงศ์พัฒน์รับสารภาพทุกข้อหา

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 พล.ต.ต.วิสูตร ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. แถลงถึงความคืบหน้าคดีจับกุม นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และ นายชากานต์ ภาคภูมิ กลุ่มบุคคลที่แอบอ้างสถาบันฯ เครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ทวงหนี้หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกรรโชกทรัพย์

โดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดแล้วเรียบร้อยแล้ว พนักงานสอบสวน มีการแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติม ข้อหาหมิ่นสถาบัน (ม.112) และคดีพกพาอาวุธปืน จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทุกข้อหา รวมทั้งเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร ด้วย

ซึ่งทั้ง 2 คดีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกรรโชก โดยใช้กำลังและอาวุธ จำนวนเงินก็สูงพอสมควร ส่วนพฤติกรรมผู้ต้องหาเป็นอย่างไร มีการแอบอ้างสถาบันหรือไม่ และมีความเชื่อมโยงกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ อย่างไรนั้น ขอไม่ได้เพราะอยู่ในสำนวนคดี ตนได้สั่งการทุก สน.ในสังกัดนครบาล ตรวจสอบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเคยก่อคดีมาแล้วอีกหรือไม่ ถ้าพบก็ให้รายงานให้ทราบโดยด่วน

ซึ่ง พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร มีจำนวน 8 คน โดยมี นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา และ นายชากานต์ ภาคภูมิ ร่วมพวกอีก 5 คนก่อเหตุ พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook