ผบ.เรือนจำระยอง ทำพิธีปล่อยวิญญาณเฮี้ยน

จากที่ปรากฎเป็นข่าวเกี่ยวกับความเฮี้ยนของเหล่าดวงวิญญาณของโรงเรียนมัธยมตากสินระยอง อ.เมือง จ.ระยอง ที่สร้างบนเนื้อที่ของเรือนจำกลางจังหวัดระยองเก่า ก่อนที่จะย้ายไปแห่งใหม่ โดยเป็นโรงเรียนในสังกัด อบจ.ระยอง ที่เปิดการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปี 53 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โดยมีเหล่าวิญญาณมาปรากฎให้ทั้งแม่บ้าน นักเรียน และครูเห็น ทั้งในรูปแบบของเสียงประตูเปิด-ปิดเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ จนเป็นที่กล่าวขานกันในหมู่แม่บ้านของโรงเรียน ทำให้ไม่กล้าขึ้นไปทำความสะอาดบริเวณที่พบเหตุการณ์ดังกล่าวคนเดียว

นอกจากนี้นักเรียนหลายคนยังเจอภาพของผู้หญิงผมยาวหน้าแดงก่ำ โผล่ให้เห็นในช่องลิฟต์ของโรงเรียน รวมไปถึงเงาดำที่โผล่หลอกหลอน จนเป็นที่หวาดกลัวของเหล่านักเรียน และบางรายยังพบเจอเสียงคล้ายเสียงโซ่ตรวนลากกับพื้นขณะเข้าห้องน้ำ แต่พอเปิดประตูมา ก็ไม่พบใครจึงทำให้เป็นลมล้มพับไปด้วยความกลัว

วานนี้ (28 พ.ย.) ที่โรงเรียนตากสินระยอง มีพิธีถอนอาณาเขตเรือนจำ หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าเกิดปรากฎการณ์ของวิญญาณและสิ่งลี้ลับต่าง ๆ เกิดขึ้นภายในโรงเรียนแห่งนี้ประจำ โดย นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางระยอง เชิญพราหมณ์มาทำพิธีถอนอาณาเขตเรือนจำ ในบริเวณเรือนจำกลางระยองเก่า ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมตากสินระยอง เพื่อปลดปล่อยวิญญาณ ซึ่งเชื่อกันว่ามีวิญญาณของภูตผีถูกคุมขังเอาไว้และไม่สามารถหลุดออกไปได้ หากยังไม่ได้ทำพิธีถอนอาณาเขตเรือนจำเก่า จนดวงวิญญาณได้แสดงปรากฏการณ์สิ่งลี้ลับต่าง ๆ ให้ผู้คนภายในโรงเรียนได้พบเห็นและเกิดความหวาดผวา

ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดระยอง เผยพิธีดังกล่าวเป็นพิธีความเชื่อและเป็นประเพณีปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ หากย้ายเรือนจำกลางไปตั้งที่อื่น จะต้องทำพิธีถอนอาณาเขตเรือนจำกลางด้วย เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณภายในบริเวณเรือนจำกลางให้หลุดพ้น ไม่ให้ถูกคุมขังอีกต่อไป อย่างเช่นเรือนจำกลางระยองที่ได้ย้ายออกไปตั้งที่แห่งใหม่ จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้ทำพิธีถอนอาณาเขตเรือนจำตามประเพณีปฏิบัติการย้ายเรือนจำ จึงทำให้ดวงวิญญาณที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางเก่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมตากสินระยองในปัจจุบัน แสดงปรากฏการณ์ต่าง ๆ เพื่อขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวได้เห็น เพื่อจะได้ทำการปลดปล่อยออกไป

โดยการทำพิธีถอนอาณาเขตเรือนจำครั้งนี้ นอกจากจะเป็นกระทำตามประเพณีปฏิบัติของการย้ายเรือนจำแล้ว ยังเป็นการบำรุงขวัญและบำรุงสภาพจิตใจแก่ จนท.ในโรงเรียน ตลอดจนบรรดาผู้ปกครองนักเรียนให้ดีขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้เป็นข่าวร่ำลือกันค่อนข้างกว้างขว้างมาแล้ว จนทำให้ผู้คนพากันหวาดผวา - สำนักข่าวไทย