ชงครม.ชี้ขาดกยศ.ปล่อยกู้เปี52พิ่มเป็น3.6หมื่นล้าน

ชงครม.ชี้ขาดกยศ.ปล่อยกู้เปี52พิ่มเป็น3.6หมื่นล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ศธ.ชงเรื่องเข้าครม.28 ม.ค.อาศัยมติ ครม. ชี้ขาดให้กยศ.ปล่อยกู้ปี 52 เพิ่มเป็น3.6 หมื่นล้านเน้นปล่อยกู้สายอาชีพในสาขาที่ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน

น.ส.นริศราตันชวาลพิพัทธ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ.)กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับนพ.ธาดามาร์ตินผู้จัดการกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)ดร.สุเมธแย้มนุ่นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(เลขาธิการกกอ.)นายเฉลียวอยู่สีมารักษ์เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา(เลขาธิการกอศ.)และผู้เกี่ยวข้องว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 28ม.ค.ศธ.จะทำเรื่องเสนอขอครม.ขอให้กยศ.ปล่อยกู้ในปีงบประมาณ2552เพิ่มเป็น3.6หมื่นล้านจากแผนเดิมที่วางไว้2.6หมื่นล้านโดยวงเงิน3.6หมื่นล้านนี้จะเพียงพอสำหรับปล่อยกู้ต่อเนื่องให้ลูกหนี้เก่า6.28แสนรายและปล่อยกู้รายใหม่3.53แสนรายรวมทั้งหมด9.81แสนราย

อย่างไรก็ตามการปล่อยกู้9.81แสนรายนี้ต้องการเงินเพิ่มอีก4พันล้านบาทเพราะรัฐบาลจัดสรรงบปี2552ให้2.56หมื่นล้านบาทกยศ.สมทบให้อีก8.1พันล้านบาทเป็นเงินที่ได้มาจากลูกหนี้จำนวน2ล้านคนทะยอยใช้คืนกลับมาแต่กยศ.มีเงินนิ่งอยู่ในบัญชีจำนวน1.3หมื่นล้านบาทเป็นเงินที่เก็บไว้เฉยๆไม่เกี่ยวกับการปล่อยกู้เพราะฉะนั้นน่าจะดึงเงินก้อนนี้มาใช้ได้ซึ่งได้หารือกับนพ.ธาดาแล้วก็รับที่จะไปดำเนินการให้แต่การจะนำเงินออกมาใช้ได้นั้นจะต้องเป็นมติของบอร์ดกยศ.ยกเว้นครม.จะมีมติให้กยศ.ไปดำเนินการกยศ.จะต้องปฏิบัติตามมติคร์ดกยศ.จะต้องดำเนินการตามแต่ปีนี้มีปัญหาเศรษฐกิจมากนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีเองก็มีดำริลงมาแล้วคุณกรณ์จาติกวณิชรมว.กระทรวงการคลังและคุณจุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์รมว.ศธ.ก็คุยกันแล้วว่าควรจะมีการเพิ่มการปล่อยกู้น.ส.นริศรากล่าว

ทั้งนี้ศธ.จะเสนอให้ปล่อยกู้โดยพิจารเด็กที่เลือกเรียนในสาขาขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานก่อนโดยในสายอาชีวะมีอยู่100หลักสูตรและอุดมศึกษา400หลักสูตรและจะเน้นปล่อยกู้สายอาชีพมากขึ้นให้อยู่ที่สัดส่วนสายอาชีพต่อสายสามัญ50:50เพราะฉะนั้นจึงมีการกำหนดสัดส่วนว่าจะปล่อยกู้ม.ปลาย106,000รายปวช.111,000รายปวสและปวท.53,000รายและอุดมศึกษา83,000รายทั้งนี้นักศึกษาที่อยู่ในระดับม.5-6และปี2-6มีสิทธิ์ที่จะขอกู้เงินด้วยเพราะพบข้อมูลว่าเด็กที่เคยยื่นกู้เงินแต่ไม่ได้รับการอนุมัติมีจำนวนมาก

รมช.ศธ.กล่าวต่อว่าศธ.ได้ขอขอให้กยศ.แจงรายละเอียดมาด้วยว่ามีเงินเหลืออยู่ทั้งหมดเท่าใดเพราะที่ผ่านมากยศ.ไม่เคยแจ้งให้ศธ.ทราบทั้งนี้เพื่อจะได้นำข้อมูลดังกล่าวมาวางแผนปล่อยกู้ได้อย่างเหมาะสมนอกจากนั้นศธ.จะเสนอครม.ให้ศธ.เข้าไปมีส่วนในการดำเนินการมากขึ้นโดยเฉพาะการติดตามให้ลูกหนี้ชำระหนี้คืนเพราะปัจจุบันกยศ.ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงหนี้ปีละ500ล้านบาทหากกยศ.ร่วมมือกับศธ.ในการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้เด็กคืนเงินจะได้ผลมากกว่าขณะเดียวกันศธ.ก็มีศักยภาพในการที่จะติดตามเข้าถึงตัวลูกหนี้ได้มาก็ตามจะเสนอขอให้ยืดเวลาชำระหนี้เป็น20ปีด้วย

ด้านดร.สุเมธแย้มนุ่นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.)กล่าวว่าประเด็นสำคัญคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งเงินถึงมือเด็กให้ตรงเวลาและจะให้ใส่เพิ่มไปในมติครม.ด้วยว่าทันทีที่เด็กรายแรกทำสัญญาเสร็จเงินค่าครองชีพจะต้องส่งเข้าบัญชีภายในวันที่30มิถุนายนทั้งนี้เพื่อเป็นการวัดประสิทธิภาพของกยศ.ด้วยนอกจากนั้นศธ.เสนอว่าจะลงไปช่วยสร้างความเข้าใจเรื่องการเลือกสาขาเรียนโดยแนะนำให้เขารู้ว่าเรียนสาขาไหนเมื่อจบออกมาแล้วจะมีงานทำเป็นการรับประกันการชำระหนี้

รายการคมชัดลึกตอน-ภาษีที่ดินและมรดกเก็บได้จริงหรือ?

ทันทีที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเดินหน้าผลักดันกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่ดินและมรดก ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างหนักว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทนแรงเสียดทานได้หรือไม่ ภาษีที่ดินและมรดกจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook