สุขุมวิทคว้าแชมป์ถ.อันตราย ถ.จรัญสนิทวงศ์-เพชรบุรีจี้ติดๆ
ด้านนายจุมพล สำเภาพล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจนครบาล พบว่า ถนนที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งส่วนใหญ่จะเป็นถนนสายหลัก เป็นทางตรงมีระยะทางยาว ปริมาณจราจรมาก เช่น อันดับ 1 ถนนสุขุมวิท กายภาพถนนเป็นเส้นตรง มีระยะทางยาว ช่องจราจรแคบ มีทางร่วมทางแยกและจุดกลับรถจำนวนมาก ทำให้บริเวณจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง 5 อันดับแรกอยู่ในถนนสุขุมวิท ประกอบกับช่วงเวลากลางคืนมีการใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดสำหรับถนนชั้นใน
ซึ่งสำนักการจราจรฯ จะนำข้อมูลข้างต้นประกอบการสำรวจปรับปรุงแก้ไขด้านกายภาพ เช่น การปรับปรุงมุมเลี้ยว การติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบเตือน ซ่อมแซมเปลี่ยนป้ายเครื่องหมายจราจรที่ชำรุด ทาสีเส้นจราจร ลูกศรให้ชัดเจน ตีเส้นชะลอความเร็ว ป้ายเตือนความเร็วในเวลากลางคืน ป้ายเตือนจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งก่อนถึงจุดนั้น
นอกจากนี้ สำนักการจราจรฯ ยังดำเนินการรณรงค์วินัยจราจร เผยแพร่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับถนนและจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยผ่านทางอินเทอร์เน็ต ป้ายจราจรอัจฉริยะ และป้ายประชาสัมพันธ์ของกรุงเทพมหานคร และที่สำคัญที่สุดคือ การประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้มงวดกวดขันการบังคับใช้กฎหมายจราจรอีกทางหนึ่ง
โดย 10 อันดับ ถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ในรอบปี 2551
1.ถนนสุขุมวิท จำนวน 751 ครั้ง
2. ถนนจรัญสนิทวงศ์ จำนวน 173 ครั้ง
3.ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จำนวน 169 ครั้ง
4.ถนนบรมราชชนนี จำนวน 127 ครั้ง
5. ถนนรัชดาภิเษก จำนวน 71 ครั้ง
6. ถนนเพชรบุรี จำนวน 67 ครั้ง
7.ทางด่วน 2 จำนวน 65 ครั้ง
8. ถนนลาดพร้าว จำนวน 55 ครั้ง
9. ถนนรามอินทรา จำนวน 50 ครั้ง
10.ถนนพระราม 4 จำนวน 30 ครั้ง
จุดที่เกิดเหตุบ่อยครั้งในถนนสุขุมวิท ตลอดทั้งปี 2551 ได้แก่ สุขุมวิท 24 จำนวน 21 ครั้ง สุขุมวิท 23 จำนวน 16 ครั้ง สุขุมวิท 39 และสุขุมวิท 40 จำนวน 12 ครั้ง สุขุมวิท 4 (แยกนานา) จำนวน 11 ครั้ง สุขุมวิท 18 (แยกอโศก) จำนวน 10 ครั้ง
ส่วนจุดเกิดเหตุบ่อยครั้งในถนนอื่นๆ ตลอดทั้งปี 2551 ถนนบรมราชชนนี-แยกบรมราชชนนี ในท้องที่ สน.บางยี่ขัน จำนวน 11 ครั้ง ถนนลาดพร้าว-ซอยลาดพร้าว 101 ในท้องที่ สน.ลาดพร้าว และถนนเพชรบุรี-แยกอโศกเพชรฯ ในท้องที่ สน.มักกะสัน จำนวน 8 ครั้ง
รายการคมชัดลึกตอน-ภาษีที่ดินและมรดกเก็บได้จริงหรือ?
ทันทีที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเดินหน้าผลักดันกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่ดินและมรดก ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างหนักว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทนแรงเสียดทานได้หรือไม่ ภาษีที่ดินและมรดกจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่