บุรุษไปรษณีย์แสบ-แกะซองฉกบัตรเครดิต

บุรุษไปรษณีย์แสบ-แกะซองฉกบัตรเครดิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เอาไปรูด กว่าแสน เหยื่อจ๊าก ตร.บุกจับ แฉคดีอื้อ

จับบุรุษไปร- ษณีย์แสบขโมยซองจดหมายบรรจุบัตรเครดิตที่ธนาคารส่งให้ลูกค้าไปรูดทรัพย์สินนับแสนบาท เผยคนร้ายเห็นซองจดหมายของเหยื่อเป็นสาวแปดริ้ว พอคลำๆ ดูแข็งๆ ก็รู้ว่าเป็นบัตรเครดิตเลยเปิดซองขโมยบัตรเครดิตแล้วสวมรอยเป็นลูกค้าโทร.ขอรหัสบัตร เอาไปกดเบิกเงินสดและรูดทรัพย์สินเป็นกล้องดิจิตอลเกือบ 8 หมื่น เจ้าของบัตรตัวจริงร้องจ๊ากมีใบแจ้งหนี้ทั้งที่ยังไม่ได้รับบัตรเลยแจ้งตร.ตามสืบจนรู้ตัวว่าเป็นบุรุษไปรษณีย์รายนี้ นอกจากนี้ยังมีหนุ่มอีกรายโดนขโมยบัตรเครดิตไปรูดกว่า 6 หมื่นเหมือนกัน ตอนตร.บุกจับหนีประกันคดีลักทรัพย์ไปเป็นคนขับรถที่นนทบุรี

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก. 2 บก.ป. พ.ต.ต.ปกรณ์ ราชคาม สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังร่วมกันจับกุม นายสราวุฒิ น้อยศรีสงค์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ 14 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 613/2551 ลงวันที่ 2 ก.ย. 2551 ข้อหาขโมยบัตรเครดิตของผู้อื่นไปรูดทรัพย์สินจำนวนมาก โดยจับกุมตัวได้ที่บริษัท สยาม ครีเอท เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เลขที่ 53/302 หมู่ 9 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ก.ค.2550 น.ส.พัชรินทร์ เจริญวุฒิธรรม ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของบัตรเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองฉะเชิงเทราว่า มีผู้ลักลอบใช้บัตรเครดิตของตนทั้งที่ยังไม่ได้รับบัตรจากธนาคาร เหตุเกิดช่วงเดือนก.ค.2550 ต่อเนื่องกันหลายครั้ง โดยมีใบแจ้งหนี้จากธนาคารว่ามีการนำบัตรเครดิตไปกดเงิน และรูดซื้อสินค้า เช่น กล้องวิดีโอดิจิตอล รวมมูลค่าความเสียหาย 78,682 บาท

จากการสอบสวนทราบว่าน.ส.พัชรินทร์ ผู้เสียหายได้ขอให้ทางธนาคารจัดส่งบัตรเครดิตมาให้ทางไปรษ ณีย์ จึงสงสัยว่ามีเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์บางคนมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเข้าสืบสวนกระทั่งได้หลักฐานว่า ผู้ที่ลักลอบใช้บัตรเครดิตของผู้เสียหาย คือ นายสราวุฒิ ซึ่งเป็นบุรุษไปรษณีย์ที่จ.ฉะเชิงเทรา มีหน้าที่จ่ายพัสดุ โดยเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์นำจดหมายหรือพัสดุไปส่งให้กับประชาชนตามบ้าน เมื่อนายสราวุฒิเห็นซองจดหมายจากธนาคารจึงจับดูภายนอกซองทราบว่าเป็นบัตรเครดิตจึงไม่นำส่งให้ผู้เสียหาย แต่กลับฉีกซองดูข้อมูลภายในและเก็บบัตรเครดิตเอาไว้ก่อนจะอ้างตัวเป็นเจ้าของบัตรโทรศัพท์ไปสอบถามรหัสบัตรจากธนาคารเพื่อนำไปใช้ จึงนำหลักฐานทั้งหมดไปขออนุมัติหมายจับจากศาล

ต่อมาชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาทำงานเป็นพนักงานขับรถให้ผู้จัดการบริษัท สยามครีเอท เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ได้ 4 เดือน จึงนำหมายจับศาลเข้าทำการจับกุม จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การชั้นศาลจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่า เคยถูกจับกุมในคดีลักษณะเดียวกันมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังก่อเหตุนำบัตรเครดิตของนายสุวิทย์ หมื่นเดช ไปใช้เหตุเกิดช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. 2550 รวมมูลค่าความเสียหาย 61,500 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวมาได้เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2551 แต่หลังจากส่งฟ้องแล้วผู้ต้องหาได้หลบหนีประกันในชั้นศาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook