อธิการบดีปทุมวัน ยื่นลาออก ทนไม่ไหว-นศ.ฆ่ากัน

อธิการบดีปทุมวัน ยื่นลาออก ทนไม่ไหว-นศ.ฆ่ากัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ตร.ออกหมายจับ ล่ามือยิงทั้ง2คดี สั่งค้นวันเกิดอุเทน สกอ.ชง3ทางแก้ เลิกรับ-ปิดมหาลัย

อธิการบดีปทุมวัน สมเกียรติ จงประสิทธิ์พร ถอดใจยื่นใบลาออกแล้ว หลังแก้ปัญหาเด็กตีกันไม่ได้ มีผล 31 ม.ค.นี้ ขณะที่เลขาฯ สกอ.เตรียมชงบิ๊กศธ.แนะทางออก 3 ข้อ งดรับน.ศ. ใหม่ปีหน้า-ให้มหาวิทยาลัยหยุดการปฏิบัติหน้าที่ ให้นักศึกษาพ้นสภาพหรือปิดมหาวิทยาลัยไปเลย แฉมีอาจารย์คอยยุให้เด็กตีกัน แถมยังมีอำนาจแฝงในปทุมวันด้วย ด้านตำรวจขอออกหมายจับนักศึกษามือปืนแล้ว พร้อมส่งทีมออกล่าตัวทุกแหล่ง คาดได้ตัวเร็วๆ นี้ มุ่งปมขัดแย้งระหว่างสถาบัน สอบพยานพบมือปืนขับตามมาตั้งแต่ที่วัด ก่อนจะยิงใส่พยานอีกคนก่อนแต่กระสุนไม่ลั่น อธิการฯ ปทุมวันเผยทั้ง 2 สถาบันพยายามแก้ปัญหามาตลอด แต่ไม่เข้าใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพราะเมื่อถามจะได้รับคำตอบเหมือนกันว่าเป็นการป้องกันตัว

จากกรณีคนร้าย 2 คน ใช้ปืนขนาด .38 เข้าประกบยิง นายคณิณ ทองอู๋ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอิเล็กทรอนิกส ์โทรคมนาคม สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน หลังเดินทางกลับจากงานเผาศพนักศึกษารุ่นน้อง ที่วัดใหญ่พระสมุทรเจดีย์ อ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ เสียชีวิต บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 52 ฝั่งขาเข้า ก่อนขึ้นทางด่วนดาวคะนอง เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ม.ค. พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 พร้อม พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รองผบก.น.8 พ.ต.อ.ดุสิต สมศักดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.เมธสิทธิ์ วชิราปัญญานนท์ รองผกก.สส. บก.น.8 พ.ต.ต.ณัฐจักร จันลา สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ ร่วมประชุมเพื่อวางแนวทางติดตามจับกุมคนร้ายใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

พ.ต.อ.ดุสิตเปิดเผยว่า เป็นการประชุมร่วมกันเพื่อแบ่งงาน โดยสน.ราษฎร์บูรณะจะรับผิดชอบด้านการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมทั้งประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามห้างร้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ รวมทั้งกล้องวงจรปิดของด่านสุขสวัสดิ์ สำหรับเจ้าหน้าที่กก.สืบสวนบก.น.8 รับผิดชอบเรื่องการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัย และสืบสวนหาเบาะแสเพื่อติดตามตัวคนร้าย

ขณะนี้พนักงานสอบสวนเรียกพยานเข้าสอบปากคำแล้ว 6 ปาก ซึ่งจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องและคนใกล้ชิดกับผู้ตายมาสอบปากคำอีกหลายคน โดยมุ่งประเด็นไปที่การล้างแค้นระหว่างสถาบัน เพราะจากการสอบปากคำพยานไม่พบว่าผู้ตายเคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน และก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ตาย ก็เคยไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มนักศึกษาคู่อริมาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนที่ไปรับศพเพื่อนรุ่นน้องที่ถูกรถชนออกจากสถาบันนิติเวช นอกจากนั้นขณะเกิดเหตุผู้ตายสวมใส่ชุดธรรมดาไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษา ทำให้คิดได้ว่ากลุ่มคนร้ายต้องไปดูลาดเลา และเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของผู้ตายและเพื่อนๆ ตั้งแต่อยู่ในงานเผาศพรุ่นน้องที่วัดใหญ่พระสมุทรเจดีย์แล้ว ก่อนขับรถจักรยานยนต์ติดตามออกมาเพื่อหาโอกาสก่อเหตุ และจากการสอบปากคำนายเจนศักดิ์ โตยิ่งศิริกุล อายุ 25 ปี เพื่อนที่ขับรถจักรยานยนต์ตามหลังผู้ตายออกมา แล้วถูกคนร้ายยิงใส่ก่อนถึง 3 นัด แต่กระสุนด้าน ยืนยันว่าก่อนที่ผู้ตายจะถูกยิงก็ไม่ได้ขับรถไปเฉี่ยวชนหรือปาดหน้ารถใคร จึงเป็นไปได้ยากที่ประเด็นสังหารจะเป็นเรื่องอื่น

ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเดินทางไปตรวจหาร่องรอยในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนเข้าประสานกับพนักงานสอบสวนสน.ราษฎร์ บูรณะ เพื่อตรวจสอบคราบเลือดและหลักฐานเพิ่มเติม จากรถจักรยานยนต์คาวาซากิเซอร์ปิโก้ สีดำ ทะเบียน กวว 143 พระนครศรีอยุธยา ของผู้ตาย เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี

วันเดียวกัน เวลา 14.30 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. เรียกประชุมสาเหตุเพื่อหามาตรการป้องกันเหตุนักเรียนตีกัน โดยมี พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ท.ดนัย วงศ์ไทย ผบช.สนว. พล.ต.ต. ราเชนทร์ รื่นกมล รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 ตำรวจในพื้นที่บช.น.และตำรวจภูธรภาค 1 นายสมเกียรติ จงประสิทธิ์พร อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน นายสืบพงษ์ ม่วงชู รักษาการผอ.สถาบันนวัตกรรมวิทยาเขตอุเทนถวาย ร่วมประชุมโดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง

พล.ต.อ.จงรักเปิดเผยว่า ที่ประชุมวันนี้ได้สรุปมาตรการป้องกันเหตุนักเรียนตีกัน 6 มาตรการด้วยกัน 1.ให้ทางสถาบันการศึกษาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ตรวจค้นอาวุธนักศึกษาทั้งเข้าและออก รวมทั้งหลังจากที่นักศึกษากลับบ้านแล้ว 2.ติดตามศิษย์เก่าที่มีพฤติกรรมไม่ดี มายุแหย่รุ่นน้องให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่ดี 3.ติดตั้งกล้องวงจรปิดหน้าสถาบันการศึกษาให้มองเห็นฝั่งตรงกันข้ามเพื่อป้องกันเหตุ 4.ให้จัดกิจกรรมระหว่างสถาบันการศึกษา เช่นการพัฒนาวัด ทำบุญร่วมกัน

5.ให้สถาบันการศึกษาทำประวัตินักศึกษาชั้นปีที่ 1 ให้กับตำรวจ เพื่อมีเหตุจะสามารถติดตามได้ 6.ให้ตำรวจจัดอบรมนักศึกษาว่า การทะเลาะตีกันนั้นมีอัตราโทษร้ายแรง และในวันพรุ่งนี้เวลา 13.00 น.ให้นักเรียนสองสถาบันมาจับมือกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับวันที่ 1 ก.พ.เป็นวันสถาปนาสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เตรียมกำลังตำรวจนครบาลไว้แล้ว 1 กองร้อย เพื่อป้องกันเหตุในวันที่ 29 ม.ค. เวลา 10.00 น.ก็จะให้ตำรวจเข้าไปตรวจค้นอาวุธของทั้งสองสถาบัน

ด้านนายสมเกียรติ จงประสิทธิ์พร อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าวภายหลังการประชุมว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับอาจารย์จากมทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่สอบถามกลุ่มนักศึกษาถึงสาเหตุของการดำเนินการ นักศึกษาอุเทนถวายตอบเช่นเดียวกับนักศึกษาปทุมวันว่า เป็นการป้องกันตัว ตอนนี้จึงไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร เพราะทุกครั้งที่เกิดเรื่องยอมรับว่าไม่สามารถหาเหตุผลที่แท้จริงได้ ตอนนี้ตำรวจจึงดำเนินการหาเบาะแสที่เกิดขึ้นอยู่

อธิการบดีฯ ปทุมวันกล่าวว่า สถาบันทั้ง 2 แห่ง พยายามปลูกฝังน.ศ.เพื่อลดความรุนแรง สร้างความเข้าใจ การให้อภัย เสียสละ และทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ อีกทั้งการดูแล ได้ขอความร่วมมือจากตำรวจให้ช่วยสอดส่องทั้งภายในและนอกมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ตนจะนำเสนอสภามหา วิทยาลัยและรายงานต่อนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช. ศึกษาธิการ และนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา ในการประชุมหารือเพื่อหามาตร การในการแก้ปัญหานักเรียนนักศึกษาทำร้ายกันในวันที่ 28 ม.ค.นี้

ด้านนายสุเมธกล่าวว่า ในวันที่ 28 ม.ค. เวลา 09.00 น. ตนเรียกประชุมผู้บริหารของปทุมวันและอุเทนถวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยสกอ.จะพยายามหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรที่จะให้สถาบันทั้ง 2 แห่ง มีระบบการคัดกรองนักศึกษาที่มีความประพฤติดีและไม่ดีให้แยกออกจากกัน และหาแนวทางในการสร้างระบบบริหารจัดการที่เคร่งครัด โดยเฉพาะกรณีที่มีอาจารย์บางคนยุยงนักศึกษา รวมถึงขอความร่วมมือจากผู้ปกครองและศิษย์เก่า ให้เข้ามาช่วยดูแลนักศึกษาด้วย พร้อมกับมีกระบวนการตรวจสอบและดูแลอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้นักศึกษารวมตัวออกไปก่อเหตุรุนแรง ได้

หากหารือร่วมกันแล้วเห็นว่าสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นของ 2 สถาบันยังไม่สามารถแก้ไขได้ในหลักการเบื้องต้น ก็อาจจะมีการนำมาตรการแก้ปัญหาที่รุนแรงมาใช้ คือ 1.การประกาศงดรับนักศึกษาในปีการศึกษาต่อไป ซึ่งมาตรการนี้ในอดีตเคยนำมาใช้แล้ว สมัยที่ยังคงเป็นวิทยาลัยอุเทนถวาย 2.ให้มหาวิทยาลัยหยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว โดยให้นักศึกษาทั้งหมดพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา และให้เข้าสู่ระบบคัดกรองของมหาวิทยาลัย คัดเลือกเฉพาะนักศึกษาที่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ให้เข้ามาลงทะเบียนเรียนใหม่ และ 3.มาตรการที่รุนแรงที่สุดคือการสั่งปิดมหาวิทยาลัย ซึ่งหลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกันแล้ว และเห็นว่ามีมาตรการเช่นไร จะเสนอให้นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาเห็นชอบต่อไป นายสุเมธกล่าว

นายสุเมธกล่าวด้วยว่า ปัญหานักศึกษายกพวกตีกันเป็นปัญหาที่สะสมมานาน จากการปลูกฝังค่านิยมผิดๆ จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง เบื้องต้นที่ตนได้พูดคุยกับนายสมเกียรติ จงประสิทธิ์พร อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก อีกทั้งในสถาบันเองยังมีอำนาจบางอย่างแฝงอยู่ซึ่งตนไม่ขอเอ่ยรายละเอียด แต่นายสมเกียรติก็พยายามแก้ปัญหามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่อาจารย์และนักศึกษา เพราะหวังว่าจะช่วยให้ปัญหาที่เกิดขึ้นเบาบางลง แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากคณาจารย์และนักศึกษาเท่าที่ควร จนกระทั่งสุดท้ายก็ต้องถอดใจยื่นใบลาออกต่อสภามหาวิทยาลัยแล้ว โดยจะมีผลในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก เพราะนายสมเกียรติก็เป็นศิษย์เก่าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหานี้ อีกทั้งยังเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ

รายงานข่าวแจ้งว่า คดีคนร้ายยิงนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ย่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้น พนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน ได้นำภาพสเกตช์ชายต้องสงสัยจากคำให้การของพยาน ไปยื่นขออนุมัติหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว ส่วนคดีคนร้ายยิงนายคณิณเมื่อวันที่ 26 ม.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจออกภาพสเกตช์ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนร้าย และขออนุมัติออกหมายจับแล้วด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook