เจาะจุดเกิดเหตุ! ทางม้าลายหน้าตึกแกรมมี่

จากกรณีอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อฝ่าไฟแดงพุ่งชนพนักงานแกรมมี่จนเสียชีวิต ทีมข่าว Sanook! ได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์และประชาชนที่ใช้ทางม้าลายดังกล่าวเป็นประจำ

บรรยากาศของจุดเกิดเหตุในวันนี้ พบว่าหัวข้อสนทนาของผู้คนบนถนนเส้นอโศกก็ยังคงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าว โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับวินัยการขับขี่ของคนใช้รถ

เพราะที่ผ่านมามีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนในบริเวณนี้อยู่บ่อยครั้ง ความรุนแรงมีทุกระดับ ตั้งแต่เลือดซิบๆ ไปจนถึงเสียชีวิตเหมือนเหตุการณ์เมื่อวานนี้

และเมื่อเดือนก่อนก็มีพนักงานแกรมมี่ถูกรถมอเตอร์ไซค์ฝ่าไฟแดงพุ่งเข้ามาชน ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เนื่องจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก

"ปัญหามาจากวินัยคนขับรถ มักง่าย มีสัญญาณไฟมันก็ไม่จอด ทางม้าลายนี้น่าจะคุ้มที่สุดในกรุงเทพฯ แล้วนะ เพราะคนใช้เยอะมาก ข้ามถนนรอบนึงไม่ต่ำกว่า20คน" แม่ค้าผู้เห็นเหตุการณ์กล่าว

ทางด้านพนักงานแกรมมี่ที่อยู่ในบริเวณนั้นให้ข้อมูลว่า "เวลาใครมาถนนเส้นนี้จะคิดว่ารถมันติดมาก ก็คงจะรีบขับเพื่อจะได้ออกไปจากถนนเส้นนี้เร็วๆ แต่จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องเหยียบมิดขนาดนั้น เพราะรถส่วนหนึ่งก็จะเลี้ยวขึ้นตึก มันก็จะระบายรถออกจากถนนไปได้"

และจากการสังเกตของทีมข่าว พบว่าผู้ขับขี่บางส่วนไม่สนใจทางม้าลายและสัญญาณไฟจราจร โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับฝ่าไฟแดงออกไปโดยไม่สนใจคนข้าม

ในขณะที่คนกำลังข้ามถนน รถยนต์ส่วนมากก็ยังเลี้ยงคันเร่งเอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะพุ่งทะยานออกตัวทันที เสมือนว่าขับรถฟอร์มูล่าวันบนถนนอโศก เป็นเหมือนกันหมดทั้งรถเมล์ รถขนสินค้า และรถส่วนตัว

และส่วนมากจะไม่รอให้สัญญาณคนเดินข้ามดับ แต่จะรีบออกรถทันทีเมื่อเห็นว่าคนข้ามถนนหมดแล้ว ซึ่งในบางครั้งก็อาจมีคนที่เดินตามหลังมาเพื่อใช้เวลา 4 วินาทีสุดท้ายก่อนสัญญาณไฟคนข้ามจะดับ วิ่งด้วยความเร็วสูงเพื่อข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง

นี่ไม่ใช่เรื่องสมมุติ แม่ค้าในบริเวณดังกล่าวให้ข้อมูลว่าเคยเกิดอุบัติเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว โชคดีที่ยังไม่ถึงแก่ชีวิต

ยังไม่นับรวมการจอดรถทับทางม้าลายที่เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติ ช่วงที่ทีมข่าวของเราสังเกตการณ์อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ เห็นการจอดรถทับทางม้าลายแทบทุกครั้งที่รถติดไฟแดง ทับมาครึ่งคันบ้าง เต็มคันบ้าง แล้วแต่ความสามารถในการเคารพกฏจราจรของแต่ละคน

ก็เห็นๆ กันอยู่ว่ามันผิดกฏหมาย แต่ทำอะไรไม่ได้ ของแบบนี้ต้องอาศัยจิตสำนึกของคนขับล้วนๆ 

มันแสดงให้เห็นว่าทางม้าลายและสัญญาณไฟจราจรไม่มีความหมายสำหรับคนขับรถบางคน 

เมื่อทางม้าลายไม่มีความหมาย การข้ามถนนในกรุงเทพฯ จึงเหมือนการเสี่ยงดวง เพราะต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล

หรือแม้แต่ทางม้าลายที่มีสัญญาณไฟคนเดินข้ามอย่างถนนอโศก ก็ไม่ได้ทำให้การข้ามถนนมีความปลอดภัยมากขึ้นเท่าไรนัก เพราะโดยมากแล้วก็ต้องคอยระวังอยู่ดีว่ารถที่กำลังแล่นเข้ามาจะหยุดหรือไม่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารถคันที่อยู่ด้านหน้าจะไม่ค่อยหยุด หรือหยุดไม่ทัน

"คนชอบพูดกันขำ ๆ ว่าไฟแดงบ้านเราแปลว่าไปได้อีก 5 คัน ส่วนมากคันที่อยู่ด้านหน้า พอเห็นว่าเป็นไฟสีเหลืองก็จะรีบเหยียบ กะว่าคงจะไปพ้นแน่ ๆ แต่ที่จริงมันควรจะชะลอรถ" ผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนกล่าวกับทีมข่าวของเรา

นอกเหนือจากประเด็นเรื่องวินัยของผู้ขับขี่ ทีมข่าวของเราตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นไปได้ไหมที่ผู้ขับขี่บางรายอาจจะฝ่าไฟแดงไปโดยไม่รู้ตัว เพราะไฟจราจรอยู่ในตำแหน่งที่สูงเกินกว่าระดับสายตา คนที่ไม่คุ้นเส้นทางอาจจะไม่ทันสังเกต 

จากหนังสือคู่มือและมาตรฐานสัญญาณไฟจราจรของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ระบุไว้ว่า โคมสัญญาณไฟจะต้องอยู่สูงจากระดับผิวทางไม่น้อยกว่า 2.5 เมตร และไม่เกิน 4 เมตร

แต่เท่าที่ประมาณจากสายตา สัญญาณไฟจราจรบริเวณจุดเกิดเหตุน่าจะสูงเกินกว่า 4 เมตร ถ้าไม่เกินก็พอดีแบบฉิวเฉียด ประเด็นนี้ก็ต้องขอฝากให้ผู้เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติมจากการตรวจเช็คการทำงานของสัญญาณไฟตามปกติด้วย 

แต่ไม่ว่าสาเหตุที่แท้จริงจะเป็นอะไร อุบัติเหตุบนถนนอโศก ก็เป็น 1 ในหลายๆ เหตุการณ์ที่สะท้อนความไร้วินัยของผู้ขับขี่อยู่ดี และหวังว่าคงจะไม่เชยนักหากเราจะตั้งคำถาม (อีกครั้ง) ว่าคุณภาพชีวิตของเรา อยู่ในกำมือของใคร?