ฮือฮา! แม่วัวสังขละบุรี ออกลูกเป็นกระทิง

(28 ธ.ค.) นายสถิต วิทิตยนตรการ ปลัดอำเภออาวุโส อำเภอสังขละบุรี รักษาราชกรแทนนายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 และ เจ้าหน้าที่ทหารกรมทหารราบที่ 14 ได้เดินทางไปพบ นายสุทธิชัย เสดวงศ์ชัย ชาวกะเหรี่ยง และ นางมะเสมี เสตะพันธุ์ อาศัยอยู่ที่บ้านใหม่พัฒนา อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบแม่วัวที่ตกลูกออกมาเป็นลูกกระทิง

นายสุทธิชัย เป็นเจ้าของแม่วัว ทำอาชีพเลี้ยงวัวมาหลายปี ปกติจะปล่อยให้วัวออกหากินตามแนวป่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เมื่อหลายปีก่อนเห็นกระทิงเพศผู้ หลงจากฝูง รูปร่างสูงใหญ่ ออกมาหากินอยู่กับฝูงวัวเลี้ยงของตัวเองและของเพื่อนบ้าน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปไล่ เพราะเกรงว่าจะถูกกระทิงทำร้าย

จนกระทั่งต่อมา เดือนเมษายน 2554 ปรากฏว่า "แม่แดง" แม่วัวได้ตั้งท้องและตกลูกออกมาเป็นวัวเพศผู้ แต่รูปร่างสูงใหญ่ผิดปกติ จนมาสังเกตเห็นในภายหลังว่า วัวมีโหนกเขาออกมาที่หน้าผาก ใบหูใหญ่ คล้ายลูกกระทิงป่า ยิ่งเติบโตมากขึ้นก็คล้ายกระทิง ชาวบ้านจึงเชื่อว่า น่าจะเป็นลูกวัวที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างแม่วัวเลี้ยงกับกระทิงป่าตัวนั้นที่หลงฝูงออกมา

นายสุทธิชัย เปิดเผยว่าอีกว่า หลังจากมีข่าวเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป มีนายทุนเสนอซื้อในราคา 200,000 บาท แต่ตนไม่ขาย จึงเก็บเลี้ยงไว้เอง ปัจจุบันลูกวัวผสมกระทิง อายุได้ 3 ปี 5 เดือนแล้ว

ขณะที่ นางมะเสมี เพื่อนบ้านที่เลี้ยงวัว ก็ได้ลูกวัวผสมกระทิงเช่นเดียวกัน "แม่น้ำชา" แม่วันอายุ 20 ปี รูปร่างเล็กเกิดตั้งท้อง หลังจากที่มีกระทิงเพศผู้หลงฝูงออกมา แต่ตอนตกลูกออกมา แม่วัวทำลูกลงกระแทกพื้นอย่างแรง ทำให้กระดูกขาขวาด้านหลังแตก จนพิการมาถึงปัจจุบัน ตั้งชื่อว่า "กาแฟ" และต่อมา แม่วัวน้ำชา ได้ตั้งท้องอีกครั้ง ตกลูกออกมาเป็นวัวเพศผู้ ลักษณะเดียวกับกระทิงป่า ตั้งชื่อว่า "โอเลี้ยง" ตอนนี้อายุ 4 เดือน

อย่างไรก็ตาม น.สพ.เกษตร สุเตชะ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างวัวบ้านกับกระทิง เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เมื่อ 10 ปีก่อน เคยมีโครงการวิจัยอนุรักษ์วัวกระทิงที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว โดยนำกระทิงมาผสมกับวัวบ้านพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งเป็นสัตว์สายพันธุ์ตระกูลเดียวกันคือ Bos gaurus ลูกที่ออกมาจะมีลักษณะเด่นคล้ายกระทิง รูปร่างใหญ่กว่าวัวบ้าน และมีความปราดเปรียวกว่า แต่ปัจจุบันโครงการดังกล่าวยกเลิกไปแล้ว

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์