กองปราบสอบถวิลไม่พบพิรุธเงิน 80ล. ไม่โยงโกง สจล.

กองปราบสอบถวิลไม่พบพิรุธเงิน 80ล. ไม่โยงโกง สจล.

กองปราบสอบถวิลไม่พบพิรุธเงิน 80ล. ไม่โยงโกง สจล.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผู้บังคับการกองปราบปราม เผย 'ถวิล' ชี้แจงที่มาของเงิน ยังไม่พบความผิดปกติ ขณะที่ พรุ่งนี้สอบ ผอ.คลัง ที่เรือนจำอีกครั้ง ด้าน 'ถวิล' ยันไม่เคยเซ็นปิดบัญชีของ สจล. ตามที่เป็นข่าว

พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญ นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. มาชี้แจงที่มาของทรัพย์สินที่ยื่นให้กับ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นทรัพย์สินตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการ สจล. ส่วนเงิน 80 ล้านบาทที่พบความผิดปกติก่อนหน้านี้ ตรวจสอบแล้วเป็นเงินที่ได้ก่อนจะดำรงตำแหน่ง ซึ่งได้มาจากทางมรดกและการประกอบกิจการอพาร์ตเมนต์รวมถึงเงินที่ได้จากการที่เป็นบอร์ดบริหาร

ส่วนเอกสารทางการเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์นำมามอบให้เมื่อวานนั้น เป็นสำเนาเอกสารมีลายเซ็นของทั้งฝ่ายการคลังและฝ่ายบริหาร แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบลายเซ็นได้เพราะเป็นสำเนาเอกสาร ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจยังคงต้องรอแคชเชียร์เช็คจาก 2 ธนาคาร คือ กสิกรและกรุงไทย

ขณะที่บุคคลทั้ง 26 คน ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่ตำรวจพบพิรุธในเส้นทางการเงินที่ออกหมายเรียกไปก่อนแล้วยังไม่มา ก็จะมีการออกหมายเรียกซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปพบ นางสาวอำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีตผู้อำนวยการส่วนการคลัง ที่ทัณฑสถานหญิง เพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกด้วย

 

'ถวิล'นำหลักฐานเข้าชี้เเจงปมสจล.ต่อกองปราบ

นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. เปิดเผยภายหลังจากเข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ว่า วันนี้ได้เดินทางเข้ามาชี้แจงพร้อมนำหลักฐานข้อมูลทรัพย์สินส่วนตัว ปี 2553 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นำข้อมูลทรัพย์สิน ปี 2555-2557 เข้ามาชี้แจงแล้ว โดยปกติแล้วบัญชีทรัพย์สินของตนจะมีเงินอยู่เกือบล้านบาท แต่หลังจากเกษียณก็ได้เงิน 1.2 ล้านบาท ทำให้เงินในบัญชีรวมเป็น 2 ล้านบาท

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังได้สอบถามถึงที่มาของที่ดินย่านปากเกร็ด โดยที่ดินมาจากมรดก ซึ่งตนได้ขายที่ดินกับน้องชาย ได้เงินรวมมาประมาณ 30 ล้านบาท จากนั้นจึงนำเงินจากส่วนแบ่งมาซื้อที่ดินเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน นายถวิล ยืนยันว่า การปิดบัญชีของ สจล. ในแต่ละครั้งจะต้องมีบัญชีใหม่เข้ามาทดแทน และยืนยันว่าตนไม่เคยเซ็นปิดบัญชีของ สจล. ย้อนหลังตามที่เป็นข่าว

ทั้งนี้ ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนไว้วางใจ นางอำพร น้อยสัมฤทธิ์ เพราะการเบิกจ่ายทุกครั้งของ สจล. ฝ่ายการคลังจะทำเอกสารเข้ามาชี้แจง โดยที่ตนไม่พบข้อพิรุธของเอกสารแต่อย่างใด รวมถึงเอกสารดังกล่าวก็มีเหตุผลชัดเจน ที่สามารถทำให้ตนลงลายเซ็นได้

อย่างไรก็ตาม นายถวิล ยืนยันว่า รู้จักกับ นางอำพร ในฐานะ ผอ.ฝ่ายการคลัง และ นายทรงกลด ศรีประสงค์ ในฐานะพนักงานธนาคารเพียงเท่านั้น

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook