ครม. เห็นชอบให้ขยายเพิ่มวงเงินกู้ กยศ. อีก 10,000 ล้านบาท

คณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ขยายเพิ่มวงเงินกู้ กยศ. อีก 10,000 ล้านบาท นักเรียน นักศึกษาสามารถกู้ได้เพิ่มอีกกว่า 350,000 คน พร้อมเพิ่มช่องทางการกู้ทางธนาคารอิสลาม เพื่อขยายโอกาสให้เด็กมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบเรื่องการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้ กยศ. ขยายเพิ่มวงเงินให้กู้ยืมสำหรับผู้กู้รายใหม่อีก 10,000 ล้านบาท จากเดิม 26,000 ล้านบาท เป็น 36,000 ล้านบาท ซึ่งจะปล่อยให้กู้ได้เพิ่มอีก 353,000 คน รวมจำนวนผู้มีสิทธิ์กู้ทั้งรายเก่าและรายใหม่ประมาณ 1 ล้านคน โดยสามารถกู้ได้ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปจนถึงนักศึกษาระดับ ปวช. ปวท. ปวส. อนุปริญญา และปริญญาตรี ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 จนถึงชั้นปีที่ 4 ซึ่งผู้ที่เคยยื่นความจำนงขอกู้แ่พลาดหวังในชั้นปีที่ 1 รวมถึงผู้ที่ประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจก็สามารถยื่นกู้ได้ อย่างไรก็ตาม ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถกู้ได้เฉพาะค่าครองชีพเท่านั้น เนื่องจากค่าเล่าเรียนรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเรียนฟรี 15 ปีให้แล้ว นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังมีมติให้ขยายช่องทางการกู้เงินให้กับนักเรียนนักศึกษามุสลิม ได้กู้เงินผ่านทางธนาคารอิสลามด้วย ซึ่งจะเป็นการขยายโอกาสให้กับนักเรียนนักศึกษามุสลิมที่อยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าถึงการศึกษามากขึ้น ซึ่ง กยศ. จะต้องประสานกับธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลาม ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้กำหนดระยะเวลาการโอนเงินกู้ กยศ. ให้กับนักเรียนนักศึกษาซึ่งจะต้องได้รับเงินกู้งวดสุดท้ายภายในไม่เกิน 3 เดือน โดยนับตั้งแต่วันที่ยื่นสัญญากู้ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ นักเรียนนักศึกาต้องได้เงินกู้ค่าครองชีพภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 และได้รับค่าลงทะเบียนเรียนในวันที่ 15 มิถุนายน 2552 เพื่อแก้ไขปัญหาการโอนเงินล่าช้า ซึ่งเป็นปัญหาที่มีการร้องเรียนมาตลอด ส่วนการชำระเงินกู้คืนนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบให้เพิ่มทางเลือกในการชำระหนี้คืนจากเดิม 15 ปี เป็น 20 ปี เพื่อให้ยอดชำระต่องวดน้อยลง ผู้กู้จะได้มีความสามารถในการผ่อนชำระได้มากขึ้น โดยขณะนี้มีผู้กู้ที่ครบกำหนดชำระหนี้แต่ไม่สามารถใช้หนี้คืนได้ตามกำหนด ประมาณ 500,000 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 30 เป็นมูลค่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ จะร่วมกับ กยศ. รณรงค์ให้ผู้กู้มาชำระหนี้คืนในโครงการ "ใช้หนี้ช่วยน้อง ตลอดจนร่วมมือกับสถานประกอบการหางานให้กับผู้กู้ที่ตกงานด้วย