สธ.ตั้งเครื่องช็อตหัวใจช่วยผู้ป่วยหัวใจวายเฉียบพลัน

สธ.ตั้งเครื่องช็อตหัวใจช่วยผู้ป่วยหัวใจวายเฉียบพลัน

สธ.ตั้งเครื่องช็อตหัวใจช่วยผู้ป่วยหัวใจวายเฉียบพลัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงสาธารณสุข เผย คนไทยได้ใช้ 'เครื่องช็อตหัวใจ' ช่วยชีวิตคนหัวใจวาย เพิ่มนาทีทองรอดชีวิตสูงถึงร้อยละ 50-70 พ้นทุกข์จากการเป็นเจ้าชาย-เจ้าหญิงนิทรา

นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ พัฒนาระบบการช่วยชีวิตผู้ที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ที่พบบ่อยที่สุดในโรคหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุให้คนไทยเสียชีวิตปีละประมาณ 54,000 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน สูงเป็นอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็งและอุบัติเหตุ คาดว่าแต่ละปีมีคนไทยหัวใจวาย 60 คนต่อแสนคน โดยผู้ป่วยประมาณครึ่งหนึ่งเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล อาจเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน ซึ่งเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินให้ได้รับบริการอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และครอบคลุมทุกพื้นที่ ฟรีทุกสิทธิ์ โดยได้นำเครื่องช็อตหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเออีดี (Automate External Defibrillator : AED) ซึ่งใช้ในต่างประเทศ เช่นญี่ปุ่นในขณะนี้ ติดตั้งเครื่องนี้ตามที่สาธารณะกว่า 450,000 เครื่อง เช่น สถานีรถไฟ สนามบิน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม มหาวิทยาลัย ในชุมชน โบสถ์ ฟิตเนส รวมทั้งมีการจัดเตรียมพร้อม สำหรับการจัดแข่งขัดกีฬานัดสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะการแข่งขันวิ่งมาราธอน พบว่าได้ผลดี เพิ่มอัตรารอดชีวิตประชาชนถึงร้อยละ 45 ซึ่งไทยยังไม่เคยมีการติดตั้งเครื่องนี้ในที่สาธารณะมาก่อน จึงถือว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานการกู้ชีพของระบบสาธารณสุขไทย ขยายไปสู่ภาคประชาชนให้สามารถใช้เครื่องนี้ช่วยชีวิตผู้ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นได้อย่างทันการณ์ ระหว่างรอทีมแพทย์กู้ชีพ 1669 จะทำให้ระบบการแพทย์ฉุกเฉินมีความสมบูรณ์แบบ ซึ่งหากผู้ป่วยได้รับการกระตุ้นหัวใจให้กลับมาทำงานภายใน 3-5 นาที จะช่วยให้รอดชีวิต หรือป้องกันความพิการจากสมองขาดออกซิเจน เป็นเจ้าชายเจ้าหญิงนิทราได้ ร้อยละ 40-50 มีความรู้และทักษะในการช่วยชีวิตผู้ที่หัวใจหยุดเต้น ส่วนประชาชนไทยยังไม่มีความรู้ด้านนี้ จึงต้องเร่งพัฒนาความรู้เรื่องนี้และทักษะในการช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้น




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook