มองการเมือง ผ่านบทบาทผู้ช่วย รมต.สหรัฐ

มองการเมือง ผ่านบทบาทผู้ช่วย รมต.สหรัฐ

มองการเมือง ผ่านบทบาทผู้ช่วย รมต.สหรัฐ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขอขอบคุณภาพจาก facebook U.S. Embassy Bangkok

เรียกได้ว่า คอมเม้นท์กระจายว่อนเน็ต หลังนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วย รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศไทย และขอให้ยกเลิกกฎอัยการศึก และยังแสดงความเห็นกรณีการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีเจตนาทางการเมือง

การวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรมต.ต่างประเทศสหรัฐ ถึงขั้นไปประท้วงหน้าสถานทูตฯกันเลยทีเดียว

ขณะอีกฝ่ายในกลุ่มเครือข่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ออกมาขานรับ ขยายความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวกันขนานใหญ่ ไล่มาตั้งแต่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพิชัย นริพทพันธุ์ น.พ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ หรือแม้แต่นักวิชาการในซีกที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน

ในขณะท่าที่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แสดงออกและแสดงท่าทีต่อ บทบาทของ ตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯในเรื่องดังกล่าวโดยความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ เอง และ วิธีการทางการทูต ที่ให้รัฐมนตรีต่างประเทศเรียกอุปทูตมาชี้แจง

สำหรับประเด็นที่นายแดเนียล แสดงความเห็น กรณีความห่วงใยสถานการณ์ เรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก บรรดาเซียนการเมืองมองว่า ในเรื่องนี้ เป็นเรื่องธรรมดา และเป็นท่าทีที่ทางสหรัฐแสดงความเห็นมาหลายครั้งหลายคราว

แต่ในประเด็น เรื่องการถอดถอนที่เจาะจงว่าเป็นการกระทำที่มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองนี้เอง ที่ถือว่า ทางการทูต ไม่สมควร เป็นการแทรกแซงทางการเมืองอย่างชัดเจน ที่ทำให้ รัฐบาลคสช.จำต้องตอบโต้ทางการทูตโดยการเรียกอุปทูตมาชี้แจง และ ตั้งคำถามกลับจะทำอย่างไรหากสหรัฐเผชิญปัญหาที่เกิดขึ้น.....

ทำให้บรรดาเซียนการเมืองมอง การเดินทางมาของผู้ช่วยรมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อหวังจะฟื้นสัมพันธ์ให้มากขึ้นหลังลดน้อยถอยลงไปตั้งแต่ช่วงรัฐประหาร กลับทรุดหนักแย่ไปกว่าเดิม เรียกว่าผลงานสอบตกไปเลยทีเดียว

ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล คสช.ของบรรดากลุ่มเครือข่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ออกมากันพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า ไม่ค่อยกล้าแสดงความเห็นดุเดือด ก็ด้วยเหตุมองว่า จะอาศัยบารมีของยักษ์ใหญ่สหรัฐฯเป็นยันต์ป้องกันตัวเองได้

แต่แล้ว กลับผิดคาด เพราะเมื่อวานนี้เองได้มีคำสั่งจากกองทัพให้บุคคลเหล่านั้น ไปพบเพื่อปรับทัศคติกันเป็นทิวแถว ทำให้เกมที่หวังจะใช้สหรัฐเป็นยันต์ป้องกันตัว และเอาความเห็นของตัวแทนสหรัฐมาทิ่มแทงรัฐบาลปลุกกระแสผ่านสื่อฯ เป็นอันสะดุด หรือภาษาวัยรุ่นก็ต้องบอกว่า มุขแป๊ก กันไปเลย

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เชื่อว่ายังไม่หมดไป ยังคงมีการเดินเกมในทางลับกันต่อไป เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่เรื่องการถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมือง แต่ยังมีคดีอาญา อีกหลายคดีอย่างเช่น กรณีละเว้นฯกรณีทุจริตจำนำข้าวเป็นต้น

คดีเหล่านี้ มีโทษถึงขั้นติดคุกติดตะราง ดังนั้นเชื่อว่า ยังคงมีการเคลื่อนไหวเพื่อจะต่อสู้ เพื่อเอาตัวรอดให้ได้ ไม่ว่าในทางคดีที่ต้องพิสูจน์กันในชั้นศาล หรือในทางการเมือง เพื่อหวังจะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง

การต่อสู้ทางการเมือง และ ความเคลื่อนไหวทางการเมืองจึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันอีก เป็นหนังเรื่องยาว ที่ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าบทจบจะออกมาอย่างไร...........

โดย : เปลวไฟน้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook