รบพิเศษ ซ้อมรบโชว์ผบ.ทบ.ยิงจรวดพลาดเป้าใส่กำลังบาดเจ็บ19นาย

รบพิเศษ ซ้อมรบโชว์ผบ.ทบ.ยิงจรวดพลาดเป้าใส่กำลังบาดเจ็บ19นาย

รบพิเศษ ซ้อมรบโชว์ผบ.ทบ.ยิงจรวดพลาดเป้าใส่กำลังบาดเจ็บ19นาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อนุพงษ์ หน้าถอดสีเลี่ยงแจงสื่อ ด้าน รมว.กลาโหม ชี้ผิดพลาดทางเทคนิค ยอมรับไม่ใช่ครั้งแรก กำชับกองทัพดูอาวุธเก่าเกินใช้งาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 มกราคม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางเป็นประธานและร่วมชมการฝึกสาธิตทดสอบขีดความสามารถทางยุทธวิธีของทหารรบพิเศษ หน่วยบัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ (นสศ.) ที่สนามยิงปืนทางยุทธวิธีของทหารรบพิเศษ อ.ท่ามะเดือ จ.ลพบุรี พร้อมด้วยคณะนายทหาร ระดับสูงกองทัพบก อาทิ พล.อ. ธีระวัฒน์ บุณยประดับ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ที่เดินทางร่วมชมการสาธิตครั้งนี้ โดยมี พล.ท. ภุชงค์ รัตนสุวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ(ผบ.นสศ.) ให้การตอนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกความพร้อมประจำปีของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ โดยจัดการฝึกซ้อมรบครั้งใหญ่สมมุติเหตุการณ์เข้าโจมตีข้าศึก โดยมีกำลังทางอากาศจากศูนย์การบินทหารบก เป็นหน่วยสนับสนุน ส่งกำลังทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้าเข้าสนับสนุนในภารกิจ และจำลองเหตุการณ์ให้ทหารรบพิเศษเข้าทำการยึดพื้นที่ ซึ่งการฝึกซ้อมรบครั้งนี้จะใช้อาวุธและกระสุนจริงเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ โดยช่วงหนึ่งของการฝึก คือ ทหารหน่วยรบพิเศษกำลังจะเข้ายึดพื้นที่ และถูกต่อต้านของฝ่ายตรงข้าม จนต้องขอกำลังสนับสนุนทางอากาศเป็นการด่วน ซึ่งตามภารกิจศูนย์การบินทหารบก ส่งเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้าติดอาวุธจรวด ขนาด 2.75 มิลิเมตร เข้าสนับสนุนโจมตีข้าศึก เพื่อให้กำลังทหารรบพิเศษเข้ายึดพื้นที่เป้าหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่กำลังทางอากาศ ฮ.คอบร้า ได้ยิงจรวดจากเครื่องบิน ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุเมื่อทิศทางของจรวดที่ต้องยิงไปพื้นที่ข้าศึกไม่ไปทิศทางที่กำหนด โดยเปลี่ยนทิศทางมาลงยังกองร้อยของทหารรบพิเศษที่อยู่ภาคพื้นรอทำการเข้าตีข้าศึกหลังเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดโจมตี ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวน 19 คน จนเป็นเหตุให้ต้องยุติการฝึกซ้อมครั้งนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำทหารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดล จ.ลพบุรี ทันที หลังจากเกิดอุบัติเหตุ พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ธีระวัฒน์ และพล.อ.ประยุทธ มีสีหน้าเคร่งเครียด และนำคณะนายทหารเดินทางไปเยี่ยมอาการทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ก่อนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯทันที ทั้งนี้ เมื่อ คณะของ พล.อ.อนุพงษ์ เดินทางมาถึงกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2.รอ) ในเวลา 14.00 น. โดยหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่รอสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากนั้นเวลา 15.00 น.ที่สถานีโทรทัศน์วิทยุกองทัพบก (ททบ.5) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของกระสุนที่เกิดการช็อต หรือข้อขัดข้องทางอิเลกทรอนิก ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วหนึ่งครั้ง ส่วนในรายละเอียดยังไม่ทราบ แต่เขาคงคิดว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก เพราะมีการทดสอบแล้วทุกคนปลอดภัย ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 10 กว่าคน สาหัส 4 คน และไม่มีใครเสียชีวิต ตนได้ให้ผู้บัญชาการทหารบกตรวจสอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

"กองทัพมีการดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์ และในการส่งกำลังบำรุงมีขั้นตอนอยู่ และคงต้องมีการพัฒนาอะไรที่เก่าต้องปล่อยไปตามอายุการใช้งาน คงต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ อาวุธที่นำมาใช้ทดสอบซ้อมยิงครั้งนี้ไม่ใช่อาวุธเก่าสามารถใช้ประจำการอยู่ได้ ซึ่งกองทัพจะมีการดูแลสวัสดิการกำลังพล และผู้บัญชาการทหารบกมีความห่วงใยเรื่องนี้"พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้คงต้องมีการตรวจสอบสาเหคุของอุบัติเหตุครั้งนี้ก่อนว่าเกิดจากอะไร เบื้องต้นน่าจะเกิดการเครื่องยิงจรวดที่ติดกับเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้า แต่คงต้องมีการตรวจสอบทั้งจากนักบินและยุทโธปกรณ์ที่ทำการฝึก ทั้งนี้ อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นการยิงจรวดพลาดเป้า ซึ่งตามแผนการซ้อมกำลังรบพิเศษจะนัดรวมพลเพื่อเข้าตีที่หมาย ตามภารกิจของกองร้อยจู่โจม ซึ่งก่อนเข้าตีต้องมีการยิงสนับสนุนทางอากาศโดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้ายิงจรวดขนาด 2.75 มิลลิเมตร เข้าใส่ที่หมาย แต่จรวดกลับพลาดเป้ามาตกในที่รวมพลของทหารกองร้อยจู่โจมที่เตรียมพร้อมเข้าตีตามภารกิจ เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บจำนวน 19 นาย สาหัส 5 นาย โดยเป็นนายทหาร 1 นายนายสิบ 12 นาย พลทหารอาสา 6 นาย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.อ.อนุพงษ์ ให้ดูแลกำลังพลให้ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook