ตร.สอบพยาน โชเฟอร์แท็กซี่รับ 2 ชายวางระเบิดหน้าพารากอน

ตร.สอบพยาน โชเฟอร์แท็กซี่รับ 2 ชายวางระเบิดหน้าพารากอน

ตร.สอบพยาน โชเฟอร์แท็กซี่รับ 2 ชายวางระเบิดหน้าพารากอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(6 ก.พ.) ความคืบหน้ากรณีเหตุคนร้ายวางระเบิด 2 ลูก บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังคงพยายามแกะรอยตามหาผู้ก่อเหตุอย่างเข้มข้น เสาะหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากที่ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปแล้ว

ล่าสุดได้ดำเนินการสอบปากคำ โชเฟอร์แท็กซี่คนหนึ่ง ซึ่งระบุว่าได้รับ 2 ชายต้องสงสัยขึ้นโดยสารบนแท็กซี่จากย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะพามาส่งบริเวณสยามสแควร์ และเกิดเหตุระทึกขวัญที่หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนในเวลาต่อมา

จากการสอบถาม โชเฟอร์แท็กซี่คนดังกล่าว ให้การว่า ได้รับชายต้องสงสัยทั้ง 2 คน ขึ้นโดยสารรถแท็กซี่จากบริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชายคนแรกขึ้นมานั่งเบาะข้างคนขับ อายุประมาณ 30 ปี ผิวคล้ำ รูปร่างผอม ใบหน้าเหลี่ยม คางแหลม สูงราวๆ 160 เซนติเมตร มีกลิ่นตัว คล้ายคนเดินทางไกล พูดเป็นสำเนียงคำภาคกลาง

ส่วนชายต้องสงสัยอีกคน ขึ้นมานั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง อายุประมาณ 30 ปีเช่นกัน หน้าตาดี ใบหน้าค่อนข้างกลม คางมน สูงราวๆ 170 เซนติเมตร ผู้โดยสารได้บอกให้ตนพาไปส่งบริเวณสยามสแควร์ ตนจึงขับตรงไปเรื่อยๆ บนถนนพญาไท เมื่อมาถึงสยามสแควร์ ฝั่งตรงข้ามห้างมาบุญครอง ผู้โดยสารสั่งให้เลี้ยวเข้าไปในสยามสแควร์

โชเฟอร์แท็กซี่ ยังได้ให้การอีกว่า เมื่อตนขับรถเลี้ยวเข้าไปได้และรับบัตรเข้า-ออก ขับต่อไปอีก 100 เมตร ผู้โดยสารทั้ง 2 ได้ขอลง พร้อมกับจ่ายค่าโดยสารให้ 70 บาท โชเฟอร์แท็กซี่ระบุว่า หากได้พบเห็นชายทั้ง 2 อีก คาดว่าน่าจะจดจำใบหน้าได้

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุดังกล่าว ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด แต่หากมีการเชิญตัวมาสอบถามข้อเท็จจริงว่า ตัวผู้ต้องสงสัยมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มใดๆ หรือไม่นั้น ก็เป็นการสืบสวนซึ่งเปิดเผยไม่ได้

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ยืนยันว่านครบาลไม่เคยระบุว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือกลุ่มใดๆ เพราะการเปรียบเทียบความสอดคล้องของคดีที่มีเหตุการณ์ตรงกันกว่า 20 คดี แต่เชื่อว่าน่าจะมีการร่วมมือกันมากกว่า 2 คนแน่นอน

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก จส.100 และ ศูนย์ข่าวแปซิฟิก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook