SCBแถลงจ่ายชดเชย1,500ล.ให้สจล.พบพนง.เอี่ยวโกง

SCBแถลงจ่ายชดเชย1,500ล.ให้สจล.พบพนง.เอี่ยวโกง

SCBแถลงจ่ายชดเชย1,500ล.ให้สจล.พบพนง.เอี่ยวโกง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธนาคารไทยพาณิชย์ แถลง ยอมชดเชยค่าเสียหาย 1,500 ล้านบาท ให้ กับ สจล. ยืนยัน ให้ความร่วมมือตำรวจหาผู้กระทำผิดเต็มที่ พบ พนักงานเอี่ยวโกง - ด้าน รักษาการแทนอธิการบดี ปัด สจล. ปัดขาดสภาพคล่อง

บรรยากาศที่ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน เดินทางมาติดตามสถานการณ์ กรณีที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. และธนาคารไทยพาณิชย์ เตรียมร่วมกันแถลงข่าว "การบรรลุข้อตกลง" โดย ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ศ.ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. และ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. หลังคดียักยอกทรัพย์ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ส่งผลให้เกิดความเสียหายกว่า 1,600 ล้านบาท

ซึ่งในเบื้องต้นทั้งสองสถาบัน ได้บรรลุข้อตกลงในการร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยทาง ธนาคารไทยพาณิชย์ จะให้เงินเพื่อดูแลความเสียหายในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท แก่ สจล. เนื่องจากปรากฏว่า มีพนักงานของธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต ทั้งนี้ การทำข้อตกลงข้างต้นจะไม่กระทบต่อการดำเนินคดีอาญากับกลุ่มผู้ทุจริตและทั้ง 2 สถาบัน ยืนยัน ให้ความช่วยเหลือและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดจนถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 สถาบัน จะแถลงรายละเอียดการบรรลุข้อตกลงครั้งนี้ ในเวลา 10.00 น.

ล่าสุด นายกำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา สกอ. นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) พร้อม นายโมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. แถลงภายหลังธนาคารไทยพาณิชย์ และ สจล. ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการแก้ไขปัญหาคดียักยอกเงินคงคลัง ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่เกิดขึ้น โดยธนาคารจะให้เงินเพื่อชดเชยความเสียหายในวงเงิน 1,500 ล้านบาท แก่ สจล. ตามมูลค่าความเสียหายที่ สจล. ได้ประเมินไว้ พร้อมยืนยันจะให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการส่งเอกสารหลักฐานทางคดี

ทั้งนี้ นายวิชิต กล่าวว่า ธนาคารยึดหลักธรรมาภิบาล และความรับผิดชอบต่อลูกค้า จึงดำเนินการชดเชยเงินดังกล่าวให้ทาง สจล เนื่องจากปรากฎว่าคดีนี้มีพนักงานธนาคารเกี่ยวข้องกับการทุจริต และหากปล่อยให้เหตุการณ์นี้ยืดเยื้อจะส่งผลต่อชื่อเสียงต่อของทั้งสองสถาบัน

ด้าน นายโมไนย กล่าวว่า ทางสถาบันมีความพอใจ และอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำหรับทุกสถาบัน และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ส่วนการบริหารจัดการด้านการเงินของ สจล. จะมีแก้ไขการจัดการรัดกุมให้มากขึ้นในทุกๆ กระบวนการธุรกรรมทางการเงินต้องตรวจสอบได้ และขณะนี้ ได้มีการตรวจสอบการทำธุรกรรมย้อนหลังไปถึงปี 2551 ซึ่งยังไม่พบความผิดปกติ หรือพบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ส่วนกรณีที่มีสื่อบางสำนัก นำเสนอพาดพิงว่า สถาบันขาดสภาพคล่องทางการเงินนั้น ไม่เป็นเรื่องจริง เพราะเงินที่ถูกยักยอกไปนั้น เป็นเงินคงคลังของ สจล. และยืนยันว่า ไม่ใช่การกดดันจากธนาคารเพื่อให้ทำธุรกรรมร่วมกันต่อ แต่เป็นการแสดงน้ำใจและความรับผิดชอบจากทางธนาคาร

อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนี้ เป็นต้นไปการให้ข้อมูลต่าง ๆ ทางคดี ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานอัยการเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทางคดี


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook