นายกมุ่งขจัดขัดแย้งขออย่าชุมนุมยันสัมปทานยึดรอบคอบ

นายกมุ่งขจัดขัดแย้งขออย่าชุมนุมยันสัมปทานยึดรอบคอบ

นายกมุ่งขจัดขัดแย้งขออย่าชุมนุมยันสัมปทานยึดรอบคอบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี มุ่งขจัดขัดแย้ง ขออย่ามีการชุมนุม ขณะยืนยัน เปิดสัมปทานยึดความรอบคอบ พร้อมรับฟังประชาชน ย้ำ ไม่ทำในสิ่งที่ออกนอกกรอบประชาธิปไตย ไม่ได้ปิดกั้นใคร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ในขณะนี้ประเทศชาติมีอยู่หลายเรื่องที่สำคัญ ที่จะต้องรีบดำเนินการ จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกันขจัดความขัดแย้งให้ได้ ช่วยกันพูดคุยหาทางออกกัน ใครผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย ขออย่าใช้การชุมนุมมาทำให้เกิดความวุ่นวายเหมือนเดิมอีก ส่วนเรื่องเปิดสัมปทานปิโตรเลียมนั้น ที่ผ่านมาก็ได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้วยความรอบคอบและฟังความคิดเห็นประชาชนอันเป็นประโยชน์ สิ่งใดที่เป็นปัญหา เห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องนำมาพูดคุยหารือกัน และทำให้ได้ข้อยุติออกมา ซึ่งวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ให้ความสนใจ ซึ่งการดำเนินการในเรื่องนี้ได้สั่งให้มีการดำเนินการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อนถึงจะเปิดสัมปทานรอบต่อไป และคงจะใช้เวลาไม่มาก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติเป็นสำคัญ ในส่วนการพูดคุยเจรจาของคณะทำงานร่วมที่ตั้งขึ้นมาโดยมีตัวแทนของภาครัฐและภาคประชาชนมาพูดคุยกันนั้น ถือว่าเป็นกลไกในการขับเคลื่อนให้ได้ข้อยุติ ไม่ใช่เป็นการขยายความขัดแย้ง

 

นายกฯบอกอย่ากังวลรธน.ยันไม่ออกนอกกรอบปชต.ปัดปิดกั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงเรื่องความก้าวหน้าในการดำเนินงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่า ในขณะนี้ได้พิจารณาร่างกฎหมายทั้งที่ คสช., ครม. และ สนช. เสนอเอง รวม 88 ฉบับ ซึ่งผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการแล้วและเห็นควรประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไปจำนวน 63 ฉบับ ที่เหลือก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาประมาณ 20 กว่าฉบับ และยังมีเตรียมจะเสนอเข้าไปใหม่อีกด้วย ซึ่งในขณะนี้ก็จะเร่งรัดในสิ่งที่จำเป็นให้ออกมาก่อน เพื่อให้แก้ปัญหาของประเทศชาติ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน อย่ามาคิดว่าทำไปเพื่อปิดกั้นใคร หรือกลั่นแกล้งใคร เพราะตนเองเข้ามาเพื่อหยุดความขัดแย้ง ให้ความเป็นธรรม โดยหลักนิติธรรม ถ้าทำความผิดก็ต้องเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม ต่อสู้คดี

นอกจากนี้ ในส่วนเรื่องของความก้าวหน้าในการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.) ขณะนี้จะได้ข้อยุติแล้ว ซึ่งอาจจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเพิ่มเติมบ้าง แต่ทุกอย่าง คสช. จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเดินหน้ายังไง รัฐบาลเดินหน้าจะต้องเป็นยังไง แต่ทั้งนี้ก็จะไม่ทำในสิ่งที่ออกนอกกรอบของประชาธิปไตยจนเกินไป ขอทุกคนอย่ากังวล ขอให้เข้าใจว่าขณะนี้สถานการณ์ไม่ปกติ กฎหมายก็คือกฎหมาย ผิดก็คือผิด

 

นายกฯย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญปัญหาเศรษฐกิจ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า การดูแลเศรษฐกิจในขณะนี้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่ผ่านมานั้น ได้การอนุมัติในหลักการที่เสนอโดยคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. ในการช่วยเหลือบรรเทาภาระหนี้สินของพี่น้องเกษตรกรผ่าน ธ.ก.ส. อันจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรกว่า 8 แสนราย ทั่วประเทศ  นอกจากนี้ ยังมีโครงการอีกหลายโครงการ คิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทที่จะช่วยกระตุ้นการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน

อย่างไรก็ตาม เรื่องการพัฒนาระบบราง ในส่วนของทางคู่ 1 เมตร นั้น จะแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นโครงการเร่งด่วน 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 903 กิโลเมตร ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ ได้แก่ เส้นทางที่มีการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)  มีการอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อเวนคืนที่ดินแล้ว 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางช่วงฉะเชิงเทรา - คลอง 19 - แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร เส้นทางที่อยู่ระหว่างการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) มีอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ ระยะทาง 48 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงนครปฐม - หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร ก็ขอความร่วมมือจากประชาชนที่อยู่ในเส้นทางดังกล่าวด้วย ในส่วนที่ 2 จะเป็นโครงการระยะต่อไป ซึ่งจะดำเนินการศึกษาและออกแบบรายละเอียดในปีนี้ จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ หัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์, ปากน้ำโพ - เด่นชัย, ชุมทางถนนจิระ - อุบลราชธานี, ขอนแก่น - หนองคาย, ชุมพร - สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี - สงขลา, หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ และ เด่นชัย - เชียงใหม่

 

นายกฯบอกปัญหาแรงงานต้องรีบแก้

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า สำหรับเรื่องแรงงานนั้น ปัญหาการขาดแคลนแรงงานถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในเวลานี้ ซึ่งประเทศไทยจะต้องเตรียมจัดหาแรงงานเพื่อใช้ในประเทศ ในการจัดตั้งโรงงาน การลงทุน และรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปลายปีนี้ด้วย ทั้งนี้ คาดว่าช่วงต้นปีหน้าจะขาดแคลนแรงงานประมาณ 6-7 หมื่นคน แม้ปัจจุบันจะมีแรงงานต่างชาติเข้ามาขึ้นทะเบียนเป็นจำนวนเป็นล้านๆ คนก็ยังไม่พอ จำเป็นต้องจัดระบบ คัดแยกประเภทแรงงานต่างๆ และเตรียมการนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ การพัฒนาฝีมือแรงงานก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งได้ให้นโยบายไปกับกระทรวงศึกษา อาชีวะให้แสวงหาความร่วมมือทวิภาคีกับบริษัทต่างๆ ในประเทศ เพื่อจะฝึกคนเหล่านั้น สำหรับเรื่องของการควบคุมราคาสินค้า  วันนี้รัฐบาล ก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่ ในการจะควบคุมดูแลราคาไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ โดยได้สั่งการให้รัฐมนตรี ข้าราชการ ลงพื้นที่เอง

อย่างไรก็ตาม วันอาทิตย์นี้เป็นวันสุดท้ายที่มีตลาดกล้วยไม้ ตลาดน้ำข้างทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้หาที่ให้ตลาดกล้วยไม้ไปอยู่ที่ตลาด อ.ต.ก. เป็นการถาวรข้างทำเนียบนี่ก็จะเปลี่ยนวิถีมาเป็นการจัดงาน ข้าววิถีไทย หรืออื่นๆ อีกต่อไปนะครับ ใน 5 มีนาคม ถึง 5 เมษายน เดือนหนึ่ง หลักก็จะโปรโมทข้าวไทย จากภาคต่างๆ นะครับ การแสดงต่างๆ วัฒนธรรมพื้นบ้านซึ่งหาดูได้ยาก ก็มีประโยชน์กับการท่องเที่ยว


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook