โคราชแล้งหนักหลายอำเภอ-พิษณุโลกน้ำแห้ง

โคราชแล้งหนักหลายอำเภอ-พิษณุโลกน้ำแห้ง

โคราชแล้งหนักหลายอำเภอ-พิษณุโลกน้ำแห้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกษตรกรชาวโคราชหลายอำเภอ เลิกปลูกข้าวนาปรัง หลังประสบกับปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ด้านจ.พิษณุโลก อ.ทุ่งแสลงหลวงน้ำแห้งขอด ขณะที่ จ.ลพบุรี อ.โคกสำโรงอ้อยยืนต้นตาย

สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ขยายวงกว้างถึง 14 อำเภอ แล้ว ส่งผลเสียหาย ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก จากที่เคยปลูกข้าวนาปรัง ต้องหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมปลูกต้นหอมซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน โดยเกษตรกรได้พากันปรับพื้นที่ทุ่งนากลายเป็นแปลงผักเพื่อทำการปลูกต้นหอมกันอย่างคึกคัก ซึ่งปรากฏว่าคนที่ปลูกต้นหอมได้ผลผลิตดีกว่าคนที่ปลูกพืชชนิดอื่น ๆ จึงทำให้เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงพากันปลูกต้นหอมกันหลายครัวเรือน ซึ่งเฉลี่ยได้ผลผลิตไร่ละ 3 ตัน รวมทั้งหมดประมาณ 15 ตัน โดยจะมีพ่อค้าคนกลางจากตลาด 4 มุมเมือง มารับซื้อถึงที่ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท สร้างรายได้ให้กับครอบครัวกว่า 3 แสนบาท


พิษณุโลกแล้งหนักทุ่งแสลงหลวงน้ำแห้งขอด

สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดพิษณุโลก เริ่มรุนแรงอย่างหนัก ล่าสุดน้ำลำน้ำเข็ก ซึ่งเป็นต้นน้ำของลุ่มน้ำวังทอง ได้เริ่มแห้งขอดจำนวนมาก บางช่วงไม่มีน้ำ สามารถเดินผ่านไปมาได้ โดยเฉพาะบริเวณน้ำตกแก่งโสภา อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำแห้งขอด แทบไม่มีน้ำ หรือไม่เห็นเป็นภาพน้ำตกเหมือนที่ผ่านมา สภาพที่เห็นกลับกลายเป็นก้อนหินมหึมาขนาดใหญ่โตจำนวนมาก ทับถมกันยาวเหยียดกว่า 200 เมตร สร้างความน่าสนใจแก่นักท่องเที่ยวอีกมุมมองหนึ่ง แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวที่พาครอบครัวมาพักผ่อน คลายร้อน

ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ได้นำป้ายเตือนนักท่องเที่ยวมาติดและวางกั้นที่บริเวณด้านบนหน้าผาของน้ำตกแก่งโสภา เพื่อเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินผ่าน เพราะอาจะเกิดอันตรายพลัดตกไปลงในแก่งโขดหิน ที่มีความลึกประมาณ 10 เมตร ได้ โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง บอกว่า ปีนี้น้ำที่น้ำตกแก่งโสภาแห้งขอดเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา ปกติกว่าจะแห้งขอดอย่างนี้ก็ต้องเดือนเมษายน แต่ในปีนี้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น น้ำตกแก่งโสภากลับมีสภาพแห้งขอดอย่างที่เห็น


พิษณุโลกประกาศภัยแล้งแล้ว2อำเภอ

นางรติฬส มีคำแหง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งแล้ว 2 อำเภอ คือ อ.วังทองทั้งอำเภอ และพื้นที่ 12 หมู่บ้าน ของ ต.บึงกอก อ.บางระกำ

โดยที่ อ.วังทอง ประกาศภัยแล้งทั้งอำเภอ 11 ตำบล 168 หมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุด แม่น้ำวังทองได้แห้งขอดเกือบตลอดทั้งสายชาวบ้านและผู้นำชุมชนได้เร่งทำฝายกั้นแม่น้ำบางจุดเพื่อให้มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค 

นอกจากนี้ยังได้มีการประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อนำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายในพื้นที่ที่ขาดแคลน อีกทั้งเร่งของบจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับสูบน้ำเข้าพื้นที่ทางการเกษตร กว่า 5,000 ไร่ ในเขต ต.แม่ระกา และ ต.วังพิกุล ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอยู่ในขณะนี้


ภัยแล้งลพบุรีเริ่มหนัก-โคกสำโรงอ้อยยืนต้นตาย

สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดลพบุรีเริ่มรุ่นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ฝนทิ้งช่วงมานานหลายเดือน ทำให้พื้นที่ในอำเภอโคกสำโรงซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกอ้อยและมันสำปะหลังเริ่มได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะต้นอ้อยที่ขาดน้ำมานานเริ่มที่จะแกนต้นไม่โต และแห้งเหี่ยวยืนต้นตายแล้วจำนวนหลายร้อยไร่ ซึ่งชาวไร่เองก็หมดปัญญาที่จะหาน้ำมาลดไร่อ้อยได้ต้องยอมยืนดูต้นอ้อยค่อยๆ ตายลงและยอมขาดทุนกับการลงทุนปลูกอ้อยในรอบนี้

ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายธนาคม จงจิระ เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดลพบุรีได้มีการประกาศภัยพิบัติแล้งไปแล้วใน 4 อำเภอ ซึ่งก็มีอำเภอโคกสำโรงรวมอยู่ด้วย พร้อมกับให้ทางเกษตรเร่งสำรวจความเสียหายจากพืชไร่ทั้งหมดเพื่อให้การช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้งในปีนี้

ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี บอกต่อว่า ในปีนี้ถือว่าจังหวัดลพบุรีประสบภัยแล้งหนักที่สุดในรอบ กว่า 20 ปี เลยทีเดียว เพราะแหล่งน้ำสำคัญแห้งขอดเนื่องจากปริมาณน้ำปีที่ผ่านมามีน้ำต้นทุนน้อยจากปริมาณฝนที่ตกลงมาน้อยกว่าทุกปีจึงทำให้เกิดปัญหาแล้งหนักกว่าทุกปี










แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook