นายกฯให้การป้องกันและปราบปรามทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ

นายกฯให้การป้องกันและปราบปรามทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ

นายกฯให้การป้องกันและปราบปรามทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.สรรเสริญ เผย นายกฯ ให้การป้องปราบการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ ห่วงการสร้างความรับรู้กับปชช.เรื่องการทำงานของรัฐบาล สั่งเพิ่มมาตรการปันส่วนแหล่งน้ำแก้ภัยแล้ง พร้อมขอให้จัดตลาดกล้วยไม้และตลาดน้ำทุกจังหวัด

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยกำหนดแนวทางให้คณะรัฐมนตรี และถือเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมเน้นย้ำทุกหน่วยงานราชการให้กำชับดูแลหน่วยงานของตนเองในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากส่วนราชการเป็นต้นแบบในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ส่วนการดูงานในต่างประเทศของของหน่วยงานต่างๆ ให้ดูความจำเป็นเพื่อปรับลดค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ ได้มอบหมายคณะกรรมการตรวจสอบงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. เข้าไปดำเนินการตรวจสอบองค์กรมหาชนทุกองค์กรเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน รวมถึงแนะนำการจัดการงบประมาณให้มีความรวดเร็วโปร่งใส

 

นายกฯ ห่วงการสร้างความรับรู้กับประชาชนในเรื่องการทำงานของรัฐบาล

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ว่า รัฐบาลทำงานเป็นจำนวนมาก แต่การสร้างความรับรู้กับประชาชนยังไม่ครบถ้วน จึงต้องสร้างความรับรู้เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในการดำเนินงานของรัฐบาล

ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดูแลในเรื่องของแอปพลิเคชั่นเป็นโทรศัพท์มือถือในเรื่องของข้อมูลที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น ราคาสินค้าต่าง ๆ และเพื่อป้องกันการขายสินค้าเกินราคา

 

นายกฯ สั่งให้เพิ่มมาตรการปันส่วนแหล่งน้ำแก้ภัยแล้ง

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงการดำเนินการด้านภัยแล้ง ว่า ตามที่รัฐบาลได้จัดลำดับความเร่งด่วนด้านภัยแล้ง คือ 1.น้ำอุปโภค-บริโภค 2.การเก็บน้ำสำหรับผลักดันน้ำเค็ม และ 3.น้ำในการสนับสนุนการเกษตร โดยนายกรัฐมนตรีขอให้เพิ่มมาตรการปันส่วนแหล่งน้ำ โดยให้หน่วยงานในพื้นที่จัดสรรเพื่อไม่ให้เกิดการสับสนในการใช้น้ำ

ส่วนในด้านการศึกษามีแนวคิดซูเปอร์บอร์ดของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้การศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมกำหนดเป็นเป้าหมาย คือ 1.เด็กจบ ป.1 ต้องอ่านออกเขียนได้ 2.นักเรียนในระดับมัธยมต้นและปลายให้มีการเสริมวิชาชีพเข้าไปเพื่อให้วางแผนในอนาคต 3.มีความเชื่อมโยงการศึกษากับการส่งเสริมวิชาชีพ เพื่อให้ตรงกับความต้องการตลาด 4.ในระดับอุดมศึกษาให้เน้นการทำงานวิจัย เพื่อเชื่อมโยงการวิจัยมนอุตสาหกรรมภาคเอกชน 5.ยกระดับความสามารถด้านภาษาอังกฤษ และ 6.ผลิตบุคลากรครูให้มีความรู้ความสามารถเพื่อสอดรับการสอนอย่างแท้จริง

"พล.อ.ประยุทธ์" ขอให้จัดตลาดกล้วยไม้และตลาดน้ำในทุกจังหวัด

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงการจัดตลาดกล้วยไม้และตลาดน้ำข้างทำเนียบรัฐบาล โดยขอให้การจัดตลาดในลักษณะนี้เป็นจุดเริ่มต้นในทุกจังหวัด ในระดับท้องถิ่น เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน

นอกจากนี้ ยังให้มีการเพิ่มการสัญจรทางน้ำในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อลดปัญหาในด้านการจราจร

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook