นายกฯขอทุกฝ่ายร่วมขับเคลื่อนปท. พร้อมรับฟังปชช.

นายกรัฐมนตรี ปรับแผนเบิกจ่ายงบประมาณเน้นความทั่วถึง เท่าเทียม โปร่งใส ปราบทุจริต แนะ ขรก. และ ปชช. ช่วยตรวจสอบ พร้อมระบุ ต้องให้เวลาทุกคนเรียนรู้ประชาธิปไตย ก่อนเลือกตั้ง ยินดีรับฟังความเห็นทุกคน วอนอย่าถามเรื่องปรับ ครม. จี้ ขรก.เร่งปรับปรุงผลงาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ในวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล ซึ่งประเทศไทย ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะมุ่งให้เห็นความสำคัญของสตรีมาโดยตลอด ได้ก่อตั้งคณะกรรมการส่งเสริม และประสานงานสตรีแห่งชาติ ขึ้นเพื่อจะส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทของผู้หญิงในสังคม ซึ่งในโลกยุคใหม่ให้ความสำคัญและยอมรับผู้หญิงมากขึ้น ทำให้ผู้หญิงในปัจจุบันมีบทบาทอย่างแพร่หลายต่อการขับเคลื่อนของสังคม จึงขอให้ชาวไทยทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพ บทบาทของสตรี ให้มากขึ้น เป็นพลังสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วย 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า เป็นที่น่ายินดีที่สื่อต่างประเทศ มีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย ในการจัดอันดับเปรียบเทียบประเทศที่มีความทุกข์ในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความทุกข์น้อยที่สุดในโลก

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ได้วางแผนงบประมาณใหม่ มีการกำหนดมาตรการเบิกจ่ายเพิ่มเติม แตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมา เพื่อเน้นความทั่วถึง เท่าเทียม โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ 4 ด้าน ประกอบด้วย โครงการที่ชัดเจน ตั้งแต่ในขั้นตอนกระบวนการเสนอ, การตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณที่สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา, มีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน เพื่อให้มีการอนุมัติงบประมาณในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วมีการตรวจสอบ มีมาตรการดูแลการจ้างงาน ช่วยเหลือคนในท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกร เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน กระตุ้นให้งบประมาณลงสู่ประชาชนในภูมิภาคโดยตรง เพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น อีกทั้ง ต้องให้ข้าราชการ ประชาชน ช่วยกันตรวจสอบ แต่ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยก แต่ต้องทำยกตัวอย่างเช่น เรื่องข้าว หากปล่อยปละละเลย ไม่รายงาน จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการเลือกตั้งเรื่องประชาธิปไตย หากพูดว่าประชาชนเป็นใหญ่ เป็นเจ้าของประเทศบางถ้าเป็นไปตามทฤษฎีนั้นถูกต้อง แต่อาจจะไม่เหมาะสม ในช่วงเวลานี้ เพราะต้องมีเวลาให้ทุกคนเรียนรู้ การมีส่วนร่วม มีจิตสำนึก มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบ และจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ตระหนักถึงสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นด้วย ทางฝ่ายการเมือง ต้องไม่ทำให้มีปัญหา มิฉะนั้นความขัดแย้งจะเกิดขึ้นอีก ส่วนด้านการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาล ยินดีรับฟังความเห็นทุกคน แต่ก็จำเป็นต้องตัดสินใจเดินหน้าทำงาน ขอทุกคนมีเหตุมีผล แม้ตนเองจะเป็นทหารมากมาทั้งชีวิต แต่ก็ฟังเสียงส่วนใหญ่ อาจจะยังไม่ตัดสินใจเวลานั้น ก็กลับมาทบทวนเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่อยากให้มาถามอีกว่า มีผลงานอะไรบ้าง จะปรับรัฐมนตรีคนไหนบ้าง ช่วงไหน ส่วนกระทรวงไหนมีปัญหาอะไร ก็รีบแก้ไข กระทรวงที่ประชาชนไม่เชื่อถือ จะไม่โทษเจ้ากระทรวง เพราะรู้ว่ามีการประชุม มีการทำงานร่วมกัน แต่ผลงานไม่ออก เพราะว่าไม่ได้ไปทำเอง รัฐมนตรีทำเองไม่ได้ ดังนั้น ข้าราชการจะต้องแก้ไข ให้ได้

นายกฯ หนุนเถ้าแก่น้อย ธุรกิจ SME

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า การส่งเสริม SMEs และสินค้า OTOP ได้สั่งการในที่ประชุม ครม. ส่งเสริมให้เกิด “เถ้าแก่น้อย” รายใหม่ๆ เพื่อเป็นตัวอย่างในการส่งเสริมธุรกิจ SMEs ให้มีศักยภาพขึ้นในประเทศ เพื่อจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมการผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ โดยให้ สสว. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง จัดทำเป้าหมายกิจการที่ควรสนับสนุนร่วมกัน จังหวัด ละ 4-5 อย่าง โดยภาครัฐจะเป็นผู้หาเงินสนับสนุนให้ ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือให้ขึ้นทะเบียน เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการภายใต้กรอบ 1 เดือน นอกจากนี้ การส่งเสริมเงินลงทุนจากภาครัฐ ก็มีหลายอย่างด้วยกัน ทั้งส่วนของ สสว. ส่วนของกระทรวง ทบวง กรม แล้ว ให้มีการลงทุนสาธารณะ เพิ่มขึ้น Crowd Funding เพื่อจะเชื่อมโยงความร่วมมือด้านตลาดทุน, ตลาดหลักทรัพย์, ธนาคารรัฐ พร้อมให้กระทรวงการคลัง ดำเนินนโยบายเพื่อให้เกิดกองทุน Venture Capital เพื่อส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือ SMEs กองทุนร่วมลงทุนใน SMEs ที่เรียกว่า SMEs 
Private Equity Trust Fund ก็จะเร่งดำเนินการให้เกิดผลโดยเร็ว เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือเข้าร่วมลงทุนในกิจการ พร้อมให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้ามาร่วมด้วย

นายกฯ ชี้ประมูลจัดซื้อจัดจ้างดีขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า เรื่องการโซนนิ่ง พื้นที่เกษตรกรรมแต่ละจังหวัด จะต้องมีการเกื้อกูลระหว่างกัน ทั้งนี้ ทุกคนต้องช่วยกันทำความเข้าใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนคติใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน และขอให้ทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เกษตร ชลประทาน มหาดไทย ขณะที่ด้านประชาชนเอง ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย ว่า พื้นที่ที่อาศัยอยู่มีน้ำเพียงพอหรือไม่ สภาพดินเป็นอย่างไร ปลูกพืชมันเหมาะสมกับอะไร โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้ทำเป็น APP เข้าไปในโทรศัพท์ เพื่อให้ความรู้ประชาชน จะได้ประกอบอาชีพได้ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม เรื่องการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนนั้น เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนจะต้องรู้นโยบายของรัฐบาลและสามารถตอบคำถามประชาชนได้ สร้างการประชาสัมพันธ์ ซึ่งตนเองจะรอดูผลงานในช่วงเดือนนี้ และในเดือนเมษายน 2558 นอกจากนี้ เรื่องการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง พบว่าการดำเนินการ ลดลงจาก 50% เป็น 30% ดังนั้น ข้าราชการและประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดให้รายงานให้ทราบ ส่งเรื่องมาให้เจ้าหน้าที่ คสช. รัฐบาล หรือ ตำรวจก็ได้ เข้าดำเนินการ พร้อมขออย่าส่งเสริมกันในเรื่องที่ผิด แล้วก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต

นายกฯ มองเงินในระบบหายจากจัดระเบียบธุรกิจสีเทา 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า ปัญหาการส่งออกไทยนั้น เบื้องต้นภาครัฐได้เร่งแก้ไขด้วยการหาตลาดคู่ค้าใหม่ ขณะเรื่องเงินในระบบที่หายไปนั้น มองว่าเกิดจากการจัดระเบียบธุรกิจสีเทา ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้เรื่องของพลังงาน พบว่า เริ่มเบาบางลง แต่ก็ยังอยากให้ทุกฝ่ายเร่งทำความเข้าใจ และหาข้อสรุป เนื่องจากพลังงานที่มีอยู่ในปัจจุบันลดน้อยลงไปทุกวัน 

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 มีนาคม - 5 เมษายน นี้ จะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับข้าว อาทิ นิทรรศการพระราชกรณียกิจ ในการพัฒนาข้าวไทย การจัดแสดงสินค้าข้าวคุณภาพและนวัตกรรม การแปรรูปข้าว เชื่อมโยงสินค้าข้าวคุณภาพจากชุมชนต่างๆ