วัดฟีดแบ็กมาตรการก๊อก 2 ยอดแวะไซต์กระเตื้อง-อสังหาฯดีใจมี ลุ้น

วัดฟีดแบ็กมาตรการก๊อก 2 ยอดแวะไซต์กระเตื้อง-อสังหาฯดีใจมี ลุ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4075

มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลประกาศออกมาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจกำลังถูกจับตามองว่าจะช่วยผลักดันให้ตัวเลขยอดขายบ้านและคอนโดฯ ขยายตัวได้ตามที่คาดหมายไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลกระทบในด้านบวกเริ่มจะมีให้เห็นแล้ว อย่างน้อยก็ช่วยให้บรรยากาศในตลาดอสังหาฯคึกคักขึ้นในแง่จำนวนลูกค้า ที่วอล์กอินเข้าเยี่ยมชมโครงการ

ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) มองว่าบริษัทน่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ทำให้สามารถขายบ้านและคอนโดฯได้เพิ่มขึ้น เชื่อว่าเป้าหมายยอดขายในปีนี้ที่ตั้งไว้ 1.7 หมื่นล้านบาท ประมาณ 2-3% ของยอดขายรวมจะมาจากการกระตุ้นโดยมาตรการดังกล่าว แต่แม้จะมีมาตรการต่างๆ ออกมา การขยายตัวของธุรกิจนี้ก็ยังต้องอาศัยอีกหลายปัจจัยมาเป็นตัวประกอบ เช่น การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งปัจจัยภายนอกที่มี ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ฯลฯ

เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นด้วยการหักลดหย่อนภาษีรอบนี้จะช่วยระบายบ้านในสต๊อกของผู้ประกอบการได้มาก โดยเฉพาะคอนโดฯในเมืองราคา 1-2 ล้านบาท

ขณะที่ ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการ ผู้จัดการ บมจ.พฤกษาฯ กล่าวว่า มาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นภาคอสังหาฯได้อย่างมาก เพราะเหมือนกับรัฐบาลลดราคาที่อยู่อาศัยให้ผู้ซื้อผ่านมาตรการภาษีของรัฐหากคิดคำนวณส่วนลดที่ลูกค้าจะได้รับ จากมาตรการ นำค่าซื้อบ้านและดอกเบี้ย ซื้อบ้านไปหักลดหย่อนภาษี น่าจะอยู่ที่ ระดับ 1-5% ของราคาบ้าน แต่ขึ้นอยู่กับโครงสร้างรายได้และภาษีที่ผู้ซื้อจะต้อง จ่ายด้วย

เช่นเดียวกับมุมมองของ อิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่บอกว่านับตั้งแต่มาตรการกระตุ้นอสังหาฯออกมาส่งผลกระทบด้านบวกต่อธุรกิจอสังหาฯ ในแง่ของจำนวนผู้เยี่ยมชมโครงการที่เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ 10-20% แต่ยอดขายยังไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากติดวันหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า 1-2 สัปดาห์จากนี้เป็นต้นไปผู้ประกอบการทุกรายจะเริ่มยิงแคมเปญกระตุ้นการขาย โดยส่วนใหญ่จะหยิบเอามาตรการกระตุ้นมาใช้ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ที่จะได้เห็นมากที่สุดคือการลดแลกแจกแถมโดยการนำส่วนลดด้านภาษีที่ได้จากภาครัฐมาใช้ทำแคมเปญกระตุ้นการขาย

แม้จะมีมาตรการกระตุ้นแต่เรายังเน้นการลงทุนแบบคอนเซอร์เวทีฟ ไม่บุ่มบ่าม เพราะปีนี้จะไม่เน้นเติบโต แต่ตั้งเป้ายอดขายไว้เท่าปี51 ที่ 800 ล้านบาท และขยายโครงการใหม่เพิ่มเพียง 2 โครงการเท่านั้น เนื่องจากต้องการรอดูสถานการณ์ก่อน

ไพโรจน์ สุขจั่น ประธานและกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ มองว่าสถานการณ์โดยรวมเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับแล้ว โดยเฉพาะจำนวนลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมแต่ละโครงการที่เพิ่มขึ้น มาจากความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับคืนมา หลังสถานการณ์การเมืองคลี่คลายลง ส่วนยอดขายช่วงนี้ยังไม่สามารถประเมินตัวเลขได้ แต่น่ากระเตื้องขึ้นระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับหวือหวามากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่ดีนัก หากภาพรวม เป็นอย่างนี้ต่อไป ยังพอประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดและผ่านพ้นวิกฤตได้ อย่าให้มีปัญหาด้านการเมืองเข้ามาซ้ำเติม ก็พอ เพราะในสายตาการเมืองจะกระทบธุรกิจหลายเด้ง

ขณะที่ สุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฉลิมนคร จำกัด ผู้พัฒนาโครงการบ้านสถาพร รังสิต คลอง 3 กล่าวในทำนองเดียวกันว่า มาตรการลดหย่อนภาษีได้รับการตอบสนองจากประชาชนที่เตรียมหรืออยู่ระหว่างตัดสินใจซื้อบ้านดีพอสมควร สังเกตจากในวันรุ่งขึ้นหลังรัฐบาลประกาศใช้มาตรการ มีจำนวนลูกค้าแวะเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างในไซต์โครงการเพิ่มขึ้นจากปกติ 2-3 ราย ที่โทรศัพท์เข้าไปสอบถามก็มีมากเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลว่ามาตรการช่วยกระตุ้นให้แต่ละบริษัทมียอดขายบ้านเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะนอกจากภาวะเศรษฐกิจแล้ว ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านยังรวมถึงความมั่นคงในหน้าที่การงานและรายได้ จึงต้องรอดูผลตอบรับในงานมหกรรมบ้านและคอนโดที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ด้วยว่าจะมียอดจองบ้านในงานคึกคักหรือไม่

เบื้องต้นผมมองว่ามาตรการใหม่ที่ออกมาน่าจะเป็นยากระตุ้นอสังหาฯที่ดี เชื่อว่าเร็วๆ นี้ผู้ประกอบการน่าจะมี แคมเปญใหม่ๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการระบายบ้านพร้อมอยู่ในสต๊อกที่ค้างจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา หน้า 7

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook