เกษตรกรท้ายเขื่อนหันปลูกพืชใช้น้ำน้อย

เกษตรกรท้ายเขื่อนลำพระเพลิง หันปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนปลูกข้าวนาปรัง หลังเขื่อนหยุดจ่ายน้ำการเกษตร

ภายหลังจากที่ทางสำนักงานชลประทานที่ 8 สั่งให้เขื่อนเก็บน้ำทั้ง 5 แห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้หยุดระบายน้ำเพื่อจัดส่งออกไปในภาคการเกษตร เนื่องจากปริมาณน้ำกักเก็บทั้งหมดที่มีเหลืออยู่ประมาณ 39% จะต้องกักเก็บไว้ในการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่บ้านบุชะอม หมู่ที่ 4 ตำบลตะขบ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนคราชสีมา อยู่พื้นที่ใต้เขื่อนเก็บน้ำลำพระเพลิง ซึ่งเดิมทีเกษตรกรจะทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังจนเต็มพื้นที่ แต่ล่าสุดหลังจากที่ทางสำนักงานชลประทานที่ 8 ได้มีการประชุมกับกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ขอความร่วมมือในการงดการปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจากปริมาณน้ำที่มีอยู่ภายในเขื่อนเก็บน้ำลำพระเพลิงนั้นจะต้องกักเก็บไว้เพื่อในการอุปโภคบริโภค จึงทำให้เกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการหันไปเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วเขียว ข้าวโพด และอ้อย เพื่อเป็นการทดแทนรายจากการที่ต้องหยุดทำนาปรัง

ด้าน นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนที่ทำให้ในหลายพื้นที่มีปริมาณฝนที่ตกลงมาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ก็ไม่เป็นผลดีต่อระดับภายในเขื่อนต่าง ๆ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมานั้นก็จะถูกพื้นที่ที่แห้งแล้งดูดซึมน้ำไปหมด จึงทำให้ไม่มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ มั่นใจว่ามีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในการอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นไปตามแผนการจัดการน้ำที่ทางสำนักงานชลประทานที่ 8 ได้มีการวางแผนไว้