เบรก"โลว์คอสต์"เพิ่มไฟลต์บินญี่ปุ่น เหตุไม่มั่นใจความปลอดภัย "ประจิน"ผิดหวังเรียกถกด่วน

เบรก"โลว์คอสต์"เพิ่มไฟลต์บินญี่ปุ่น เหตุไม่มั่นใจความปลอดภัย "ประจิน"ผิดหวังเรียกถกด่วน

เบรก"โลว์คอสต์"เพิ่มไฟลต์บินญี่ปุ่น เหตุไม่มั่นใจความปลอดภัย "ประจิน"ผิดหวังเรียกถกด่วน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ประจิน"รับผิดหวังหลังเจซีเอบีสั่งเบรกสายการบินจากไทย โดยเฉพาะเที่ยวบินเหมาลำไม่ให้เพิ่มเที่ยวบินไปญี่ปุ่น เม.ย.นี้ ชี้กระทบเที่ยวสงกรานต์ สัปดาห์หน้าเรียกถกด่วน นกสกู๊ตบ่ยั่นใช้ไลเซนส์ญี่ปุ่นบินแทน ทีทีเอเอเชื่อเป็นมาตรการสกัดทัวร์ด้อยคุณภาพ

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่กรมการบินพลเรือนญี่ปุ่นสั่งห้ามเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากไทยบินเข้าญี่ปุ่น เนื่องจากกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น (เจซีเอบี) มีหนังสือถึงกรมการบินพลเรือน (บพ.) ระบุว่าทุกสายการบินของไทยที่จะบินเข้าญี่ปุ่นไม่สามารถขอปรับเพิ่มเที่ยวบิน ปรับเปลี่ยนเส้นทางหรือจุดหมายปลายทาง และขนาดของเครื่องบิน ให้ทำการบินตามสิทธิเดิมที่ได้รับอนุมัติแล้วเท่านั้น

ส่งผลให้การบินไทย, นกสกู๊ต, ไทยแอร์เอเชีย และสายการบินอื่นๆ จะต้องชะลอแผนที่ขอเพิ่มเที่ยวบินไปญี่ปุ่นทั้งหมด ซึ่งกระทบต่อแผนการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งล่าสุด นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดี บพ. พร้อมด้วยตัวแทนสายการบินไทย สายการบินนกแอร์ ได้ไปชี้แจงกับเจซีเอบีเพื่อยืนยันในมาตรฐานของสายการบินของไทย จากนั้นจะไปชี้แจงกับเกาหลีใต้ เยอรมนี จีน และประเทศที่มีเส้นทางบินหลักของไทยต่อไป

"ญี่ปุ่นซึ่งเป็นสมาชิกขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ได้ขอให้ไทยส่งรายงานแผนความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาตามข้อสังเกตของไอเคโอ โดยเฉพาะแผนการดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่อง (Corrective Action Plan) เช่น สินค้าอันตราย และการออกใบอนุญาตต่างๆ ให้ทราบเป็นระยะ เพื่อให้ทางญี่ปุ่นได้นำมาประกอบการพิจารณาด้วย ขณะที่ช่วงนี้เป็นช่วงซัมเมอร์ ทำให้ผู้โดยสารต้องการเดินทางไปญี่ปุ่นจำนวนมาก ส่งผลให้สายการบินต่างๆ ขอเพิ่มเที่ยวบินไปญี่ปุ่นมากขึ้น" พล.อ.อ.ประจินกล่าว

และว่า รู้สึกผิดหวังญี่ปุ่นและไอเคโอมาก เพราะปกติการตอบรับของประเทศสมาชิกจะต้องดำเนินการหลังจาก 90 วันเมื่อครบกำหนดที่ บพ.ของไทยเสนอแผนแล้วไม่ผ่าน แต่ญี่ปุ่นมีปฏิกิริยาตอบรับเรื่องนี้เร็วมาก ทั้งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม และ บพ.พยายามแก้ไขข้อบกพร่องอย่างชัดเจน โดยในสัปดาห์หน้าจะนัดประชุมเพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

นายสมชาย กล่าวว่า บพ.ได้รับจดหมายจากเจซีเอบีเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่ารับทราบผลการตรวจสอบจากไอเคโอ ที่ตรวจพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยเกี่ยวกับกระบวนการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ ทางเจซีเอบีจึงไม่อนุมัติให้ขยายหรือเปลี่ยนบริการขนส่งทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มท่าอากาศยานหรือเปลี่ยนเครื่องบินที่จะบินไปยังญี่ปุ่น และจะเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบลานจอดอากาศยาน (Ramp service) มากขึ้นด้วย แต่ก็จะไม่กระทบกับสายการบินที่ให้บริการแบบประจำที่ยังบินได้ตามปกติ

นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่นและประธานที่ปรึกษาสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ได้แจ้งให้สมาชิกที่ทำทัวร์ไปญี่ปุ่นรับทราบกรณีที่ญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้สายการบินเช่าเหมาลำจากไทยบินเข้าประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่1 เมษายน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับบริษัททัวร์แน่ แต่เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้คุณภาพทัวร์ไปญี่ปุ่นดีขึ้น

นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกสกู๊ต กล่าวว่า ทุกสายการบินได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ซึ่งในส่วนของนกสกู๊ตจะหาพันธมิตรสายการบินอื่นช่วยบรรทุกผู้โดยสารที่มีการจองเข้ามาแล้วพอสมควร และยืนยันว่าจะดูแลผู้โดยสารทุกคนไม่ให้เกิดปัญหา อยากให้รัฐบาลแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด

นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ในวันที่ 27 มีนาคม จะเสนอให้บอร์ดอนุมัติให้นกสกู๊ตทำการบินไปยังญี่ปุ่นด้วยไลเซนส์การบินจากสิงคโปร์แทนเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook