ป๋าเปรมห่วงไทยยังแตกแยกโกงฝังลึกขอยึดธรรมาภิบาล

'พล.อ.เปรม' าเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการและการสัมมนาระหว่างประเทศ พร้อมระบุ ห่วงไทยยังแตกแยก ทุจริตฝังลึก ขอยึดธรรมภิบาลขจัดวงจรฉ้อราษฎร์บังหลวง

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวว่า ยินดีที่ได้เป็นเกียรติมาเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการและการสัมมนาระหว่างประเทศ พร้อมขอชื่นชมสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ย่อท้อ เพื่อเสริมสร้างความยุติธรรม และหลักธรรมาภิบาลให้แก่ประชาชนตลอดระยะเวลา 15 ปี 


ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 (รัฐธรรมนูญฉบับก้าวหน้า) ได้กำหนดให้มีองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการสาธารณะ จึงทำให้มีการจัดตั้งหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินขึ้นในปี พ.ศ. 2543


นอกจากนี้ พล.อ.เปรม ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาความแตกแยกทางสังคม ทำให้เห็นว่าการขาดธรรมาภิบาลได้ฝังตัวลึก มีการทุจริต ประพฤติมิชอบที่เรื้อรัง รวมถึงผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่และข้าราชการบางส่วนขาดจริยธรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้นำไปสู่การเคลื่อนไหวทางสังคม และเรียกร้องให้ปฏิรูปโดยเร่งด่วนและครอบคลุมทุกด้าน 

อย่างไรก็ตาม ธรรมภิบาลจะเป็นจะเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การพัฒนาของสังคมไทย และการขจัดวงจรอุบาทว์ของฉ้อราษฎร์บังหลวง

พล.อ.เปรม ยังกล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของธรรมาภิบาล คือ ความสำนึกในภาระความรับผิดชอบ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องรายงานและแสดงความรับผิดชอบในนามของส่วนร่วม 

ทั้งนี้ ย้ำว่าการปัดภาระความรับผิดชอบเป็นสิ่งน่าละอาย ผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม รวมถึงความโปร่งใสก็เป็นส่วนหนึ่งของหลักธรรมาภิบาล ซึ่งหากมีระบบความโปร่งใสมากเท่าใด ก็ยิ่งลดโอกาสที่จะเกิดการฉ้อราษฎร์บังหลวง


นอกจากนี้ พล.อ.เปรม ยังกล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้ทรัพยากรและเวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าสูงสุดถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ 

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยที่ภาครัฐต้องยอมรับการตรวจสอบของภาคประชาสังคม