เราอยู่กันในสังคมแบบใหน...??

เราอยู่กันในสังคมแบบใหน...??

เราอยู่กันในสังคมแบบใหน...??
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สังคมไทยวันนี้มีเรื่องน่าใจมากมายหลายเรื่อง มีทั้งเรื่องทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ที่ชวนติดตามอยู่หลายประเด็น

หากถามว่าแล้วเรื่องอะไรที่คนไทยสนใจติดตาม ...ทุกวันนี้มีเครื่องมือวัดแบบง่ายๆ ในเชิงปริมาณก็คือ ไปดูกระแสในสังคมโซเชียลดูซิ ...ทุกวันนี้การไหลบ่าของข่าวสารที่ผ่านสังคมโซเชียลเรียกได้ว่าเร็ว แรง และทรงพลังขึ้นทุกขณะ

เราเห็นตัวอย่างมากมายของการกระจายตัวอย่างรวดเร็ว และเป็นกระแสที่ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อย่างเช่น การแชร์วีดีโอเหตุการณ์สะเทือนสังคม กรณีป้าลงมือทำร้ายหลานด้วยการเฆี่ยนตีอย่างรุนแรง โดยอ้างเหตุเด็กขโมยของจากร้านสะดวกซื้อ ที่ จ.นครปฐม

ล่าสุด มีเหตุสะเทือนขวัญจากกรณี พ่อเลี้ยงทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้กระทำผิดเพื่อมาดำเนินคดีทางกฎหมายอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นเพราะการเผยแพร่กันในสังคมโซเชียล

อีกเรื่องที่บอกว่าเป็นกระแสร้อนในโลกโซเชียล ก็คือ กรณีเสี่ยเจียงกับ กับจา พนม ที่มีคดีความกันจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นเหตุให้ หนังดังทำท่าจะไม่ได้ฉายในประเทศไทย พอเป็นข่าวขึ้นมาเท่านั้น สังคมโซเชียลก็ทำหน้าที่ทันทีอย่างรวดเร็วและรุนแรง เรียกว่าดาหน้ากันเข้ามาถล่มเลยทีเดียว ทำให้ค่ายหนังของเสี่ย เสียรังวัดไปเยอะทีเดียว จนในที่สุดมีการร้องต่อศาลจนมีการพิจารณาคำสั่งให้หนังดังสามารถลงโรงให้ผู้คนได้มีโอกาสชมกันเป็นที่สมใจในที่สุด

กระแสในโลกโซเชียล ในสังคมไทยต้องบอกว่า เป็นกระแสหลักของสังคมทุกวันนี้ก็ว่าได้ ทุกวันนี้รายการเล่าข่าวเกือบทุกสถานี ต้องเฟ้นหาเรื่องราวที่เกิดบนโลกโซเชียลมานำเสนอเพื่อสนองกระแสความสนใจของผู้คนในสังคมกันทุกวัน มีหมดทุกแนวตั้งแต่เรื่องตลกขบขัน เรื่องเศร้า เรื่องคาว คนดัง ไฮโซ ไฮซ้อ ฯลฯ

ด้วยความที่กระแสบนโลกโซเชียลเป็นเรื่องที่เรียกว่าไหลบ่าขยายวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่นักวิชาการทางสังคม การเมือง นักการเมือง ดารา แม้แต่สื่อยังต้องเกาะติดกระแสโซเชียลเพื่อไม่ให้พลาดเหตุการณ์หรือตกกระแสกันแทบทั้งสิ้น

อย่างกรณีกระแสแต่งชุดไทย ซึ่งกำลังเป็นกระแสกันพอสมควร ซึ่งก็มีนักวิชาการไทยที่ไปอยู่ต่างแดนให้ความสนใจ และ คงนึกหมั่นไส้ เลยลงมาเล่นกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า การแต่งชุดไทยแต่ไปกินอาหารฝรั่งเป็นเรื่องการดัดจริต จนมีเพจดังออกมาตอบโต้ และผู้คนบนโลกโซเชียลตามไปถล่ม จนนักวิชาการคนนั้นต้องลบภาพลบโพสต์หนีกันเลยทีเดียว

เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เหตุถึงสังคมสมัยใหม่ที่ไร้พรมแดน และสื่อสารกับแบบพหุ ที่ทรงพลังน่าสนใจยิ่ง
เดิมทีที่การสื่อสารต้องอาศัย สื่อ เป็นตัวกลางในการส่งสารไปยังสังคมกำลังเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เดิม ผู้สื่อข่าวกับแหล่งข่าวต้องอาศัยและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันพอสมควร แต่ปัจจุบันแหล่งข่าวสามารถเป็นสื่อ และส่งสารออกไปยังสังคมได้โดยตรง สามารถตอบโต้ กับนักข่าวได้โดยตรง ผ่านโซเชียลมีเดียได้อย่างถึงพริกถึงขิงกันเลยทีเดียว

เรียกได้ว่า วันนี้ ทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นข่าวขึ้นมาได้ทั้งนั้น หากคุณทำอะไรที่เป็นที่น่าสนใจไม่ว่าจะทางดีหรือไม่ดีก็ตาม

อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า แม้กระแสของโลกโซเชียลจะแรงและไหลบ่าอย่างกว้างขวาง แต่ ในมุมหนึ่งสำหรับสังคมไทยก็คือ ยังมีบางเรื่องที่คนในโลกโซเชียลให้ความสนใจน้อย หรือแทบไม่สนใจ คือ ประเด็นในเชิงเนื้อหาที่เป็นจริงเป็นจัง ของบ้านเมือง

ชาวโซเชียล ดูเหมือนจะขีดวงจำกัดตัวเอง หรือเรียกว่าเซ็นเซอร์ตัวเองกันโดยอัตโนมัติ กับเรื่องการบ้านการเมือง อย่างเช่น การปฏิรูปประเทศ การออกกฎหมายสำคัญที่กระทบต่อคนในสังคมในวงกว้าง เรียกได้ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กระแสหลักของสังคมโซเชียล จะมีบ้างแต่ก็เป็นกลุ่มเฉพาะ ซึ่งไม่กว้างขวางเหมือนกับประเด็นอื่นๆที่ยกมา

ซึ่งหากจะนิยามโลกโซเชียลของสังคมไทย จะนิยามได้หรือไม่ว่า นี้คือโลกของสังคมที่นิยมดราม่า โลกของสื่อออนไลน์ที่เร็ว แรง แต่ไม่ต้องการความลึก...
น่าสนใจนะครับว่า กระแสของสังคมไทยต่อไปข้างหน้าจะไปในทิศทางใด และโลกโซเชียลมีเดียจะส่งผลต่อพัฒนาการของสังคมไทยหรือไม่อย่างไร ..อยากจะเสนอนักวิชาการศึกษาวิเคราะห์ออกมาเพื่อเป็นวิทยาทาน..ในเรื่องเหล่านี้...เพราะส่วนตัวแล้วเชื่อว่า โลกของสังคมโซเชียล สังคมออนไลน์ของสังคมไทย ก็คือภาพสะท้อนของสังคมไทยในปัจจุบันนั้นเอง............

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook