2 ผัวเมียสัปเหร่อ คดีศพเด็กใต้ฐานพระ ปฏิเสธไม่รู้เห็น

2 ผัวเมียสัปเหร่อ คดีศพเด็กใต้ฐานพระ ปฏิเสธไม่รู้เห็น

2 ผัวเมียสัปเหร่อ คดีศพเด็กใต้ฐานพระ ปฏิเสธไม่รู้เห็น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเชียงใหม่แจ้งข้อกล่าวหา 2 ผัวเมีย สัปเหร่อสุสานพัวพันคดีซื้อขายศพเด็กทำไสยศาสตร์ เจ้าตัวยังปฎิเสธเสียงแข็ง ไม่รู้ไม่เห็น แค่มีคนเอาศพมาฝากไว้ให้รอทำลาย

(28 เม.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ พ.ต.ต.มาโนช เยี่ยมเจริญ พนักงานสอบสวน ได้นำตัว นายสุทัศน์ สัปเหร่อสุสานหายยา พร้อมกับ นางสมบูรณ์ หรือ ยายบูรณ์ ภรรยา มาสอบปากคำและแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ประกอบกฎกระทรวงว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ. 2545 และเทศบัญญัตินครเชียงใหม่ เรื่องการกำจัดมุลฝอยติดเชื้อ พ.ศ. 2547 ในข้อหากำจัดสิ่งปฎิกูลที่ติดเชื้อโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การดำเนินคดีกับ นายสุทัศน์ กับ ภรรยา ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกค้นหาหลักฐานที่สุสานหายยา ตามที่ นายเฉลิม อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยดินจี่ ให้การว่า รับซื้อศพ น้องวันเพ็ญ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขุดใต้ฐานพระพรหม ภายในวัดห้วยดินจี่เมื่อวันที่ 21 เมษายน มาจาก ยายบูรณ์

ซึ่งการตรวจค้นที่สุสานหายยา เจ้าหน้าที่พบชิ้นเนื้อมนุษย์ บรรจุอยู่ในถุงดำกว่า 19 ถุง ซุกซ่อนไว้ในห้องใต้ดินใต้เมรุเผาศพภายในสุสาน กระทั่งเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) เจ้าหน้าที่นิติกรของเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับนายสุทัศน์และนางสมบูรณ์

ด้าน พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผู้บัญชาการการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง ทั้ง 2 ให้การยอมรับเพียงว่า รับเศษชิ้นเนื้อมาจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ห้องแลปที่สวนดอก ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่นำมาฝากไว้และจะไปติดต่อกับทางเทศบาล เพื่อขอดำเนินการเผาทำลาย แต่เนื่องจากติดวันหยุดยาวและก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องหมอกควัน ทำให้การดำเนินการล่าช้าไป

ส่วนการขายศพเด็กทารกและชิ้นมนุษย์ ทั้ง 2 ให้การปฎิเสธว่า ไม่ได้ทำ โดย นางสมบูรณ์ อ้างว่า ไม่เคยรู้จัก กับนายเฉลิม อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยดินจี่มาก่อน และไม่เคยข้อเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่ทำไสยศาสตร์ และเครื่องราง ของขลังแต่อย่างใด หลังการสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้ตัว นายสุทัศน์ และ นางสมบูรณ์ ไปส่งฟ้องศาลแขวง จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook