วันที่ 1 พ.ค. เวลา 20.00 น. กลุ่มนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) 6 คน ได้แก่ นายเจษฎา ศุภปีติพร, น.ส.ธัญสุดา อรรถวิน, นายนฤดล นาคหาญ, นายวศิน ชัยวนนท์, น.ส.นวลจันทร์ เจียรพัทนรัก และ นายดนูวิทย์ ใจแก้ว ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ ระหว่างเดินเขาในเมืองโพคารา ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG320
นายดนูวิทย์ ได้เล่าถึงช่วงที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ว่า ระหว่างนั้นกำลังเดินทางจากทิกเค ดุงห์กา (Tikhe Dhunga) ไปยังโกห์เรปานี (Ghore Pani) รู้สึกว่ามีแรงสั่นสะเทือน แต่ไม่มาก รอบๆ ตัวมีเสียงสังกะสีจากหลังคาบ้านที่สร้างในละแวกนั้นกระทบกัน แต่ไม่มีความเสียหาย ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเกิดอะไร กระทั่งวันต่อมาลูกหาบถามข่าวจากในเมืองเลยรู้ว่ามีแผ่นดินไหว และในพื้นที่กรุงกาฐมาณฑุได้รับความเสียหายมาก จากนั้นจึงคุยกับเพื่อนๆ ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ก็ตัดสินใจว่าเดินย้อนลงเขาดีกว่า ระหว่างทางได้เจอคนไทยและนักท่องเที่ยวที่ไปเดินเขาบ้าง ซึ่งทุกคนปลอดภัยดีและไม่มีใครบาดเจ็บ
ส่วนทางด้าน นายนฤดล กล่าวว่า ดีใจมากที่กลับมาถึงประเทศไทยและจุดที่พวกตนและเพื่อนๆ อยู่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากอยู่ห่างจุดที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุแล้วไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย กระทั่ง 3 วันต่อมาจึงมีสัญญาณโทรศัพท์ พวกตนจึงได้โทรศัพท์ติดต่อหาพี่สาวของเพื่อนได้ในที่สุด และถ้ามีโอกาสพวกตนอยากกลับไปเนปาลอีก
ขณะที่ ครอบครัวของหมออีฟ หรือ ดร.มาริสา อีฟ จีระวงศ์ไกรศร (Marisa Eve Girawong) แพทย์หญิงชาวไทย ถือสัญชาติอเมริกัน วัย 28 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ได้เดินทางมารอรับศพหมออีฟที่อาคารคลังสินค้าขาเข้าระหว่างประเทศ ซึ่งศพของหมออีฟเดินทางมาถึงยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลาประมาณ 20.15 น. โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยมี นายอาคม และ นางวีรุดา จีระวงศ์ไกรศร บิดาและมารดา ยืนกอดรูปของหมออีฟ พร้อมทั้งน้ำตาตลอดเวลา
นายอาคม ให้สัมภาษณ์ว่ากับผู้สื่อข่าวว่า ครอบครัวยังรู้สึกเศร้าเสียใจกับการจากไปของหมออีฟ ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียในครั้งนี้ หมออีฟถือเป็นสินทรัพย์สำคัญของครอบครัวและวงศ์ตระกูล ถึงแม้ว่า หมออีฟ จะรูปร่างเล็กแต่เป็นคนใจกล้า-ใจใหญ่และชอบช่วยเหลือคน โดยอาสาที่จะทำงานให้กับ เมดิสัน เมาท์เทนเนียริ่ง ในการเป็นผู้ช่วยแพทย์ประจำที่เบสแคมป์เชิงเขาเอเวอเรสต์ ให้กับนักปีนเขา กระทั่งเสียชีวิตจากหิมะถล่มบนยอดเขาเอเวอเรสต์ หลังแผ่นดินไหวที่เนปาล
ทั้งนี้ครอบครัวต้องขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ชื่นชมหมออีฟในครั้งนี้ หลังจากนี้จะมีการทำพิธีอำลาศพของลูกสาวที่โบสถ์มหาไถ่ และจะมีงานสวดในวันที่ 6 พ.ค. 58 หลังจากนั้น เราก็จะเคลื่อนย้ายศพไปวัดจันทร์แก้วฟ้า ศรีพระยา ทำพิธีสวดและบังสุกุลและฌาปณกิจต่อไป โดยจะนำกระดูกน้องไปเก็บไว้ที่เนปาลส่วนหนึ่งและที่บ้านเกิดที่ต่างจังหวัดส่วนหนึ่ง และอยากจะบอกกับลูกว่าพ่อกับแม่รักและภูมิใจในตัวลูกมาก และยังจำคำที่ลูกบอกได้ว่า "จะกลับมาหาพ่อกับแม่เร็วๆ นี้"