นายกสั่งด่วนล่าค้ามนุษย์โรฮิงยาลั่นคนชั่วต้องไม่มีที่ยืน

นายกสั่งด่วนล่าค้ามนุษย์โรฮิงยาลั่นคนชั่วต้องไม่มีที่ยืน

นายกสั่งด่วนล่าค้ามนุษย์โรฮิงยาลั่นคนชั่วต้องไม่มีที่ยืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งด่วน ล่าค้ามนุษย์โรฮิงยา 30 ศพ ขู่ลงโทษเด็ดขาด หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยว ลั่นคนชั่วต้องไม่มีที่ยืน - รอง ผบ.ตร. ชี้ กำลังรวบรวมข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. รับทราบข่าวการพบหลุมฝังศพชาวโรฮิงยา 30 ศพ ที่คาดว่าจะเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์แล้ว และมีคำสั่งด่วนให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. ลงพื้นที่สืบสวนหาตัวผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นชัดเจนที่จะกำจัดขบวนการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ และสกัดกั้นไม่ยอมให้ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน หรือจุดพักแรงงานผิดกฎหมาย หากผลการสืบสวนขยายผลไปยังบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องได้รับโทษขั้นเด็ดขาด โดยเฉพาะหากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องได้รับโทษทั้งอาญาและวินัย เพราะคนทำความผิดจะต้องไม่มีที่ยืนในสังคมไทย

 

ตร.ชี้กำลังรวบรวมข้อมูลเหตุพบหลุมฝังศพโรฮิงยา

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ภายหลังการประชุมความคืบหน้ากรณีพบแคมป์และสุสานฝังศพชาวโรฮิงยาบนยอดเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ว่า ขณะนี้ได้มีการขุดหลุมฝังศพไปแล้ว 8 หลุมพบศพ 4 ศพ และได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ทราบว่าเป็นใครและสาเหตุการตาย ส่วนแนวทางการคลี่คลายคดีนี้ ได้วางไว้ 3 แนวทาง คือ จะต้องเร่งรัดทั้งคดีที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่มีการแจ้งความลักพาตัวชาวโรฮิงยาไปเรียกค่าไถ่ ซึ่งมีการออกหมายจับแล้ว 4 คน

ส่วนที่สองคือ การตรวจโครงกระดูกที่พบในบริเวณสุสานฝังศพบนเทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ ว่า เป็นใครและสาเหตุการตายและเกี่ยวข้องกับใครบ้าง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ส่วนที่สามคือ การสอบสวนชาวโรฮิงยาที่นอนป่วยอยู่ในแคมป์ เพื่อพิสูจน์ว่า พื้นที่ดังกล่าว มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นการทำผิดตามกฎหมายอย่างไร

พล.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า ขณะมีการรวบรวมข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ข้อมูลบางส่วนแล้ว และการพบแคมป์และสุสานชาวโรฮิงยาในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ นั้น กรอบการสอบสวนจะเชื่อมโยงกัน ทั้งคดีเรียกค่าไถ่ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช คดีฆ่านายหน้าสองศพในพื้นที่ จ.สตูล และปาดังเบซาร์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

 

ตร.ชี้ต้องตรวจหาสาเหตุการตายกรณีพบสุสานโรฮิงยา

พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีพบแคมป์และสุสานฝังศพชาวโรฮิงยาบนยอดเขาแก้ว จ.สงขลา โดยหลังจากที่มีการขุดศพทั้งหมดขึ้นมาจะต้องตรวจหาสาเหตุการตาย และเก็บดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลนำไปเปรียบเทียบกับบุคคลต้องสงสัย

ส่วนความคืบหน้าการขุดหลุมศพในวันนี้ทาง พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมแพทย์และหน่วยกู้ภัยได้ขึ้นไปขุดหลุมศพที่เหลืออยู่ทั้งหมดหลังจากที่ขุดไปแล้ว 8 หลุม และพบเพียง 4 ศพ จากนั้นจะนำเข้าสู่การตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายและเก็บดีเอ็นเอ ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนเพื่อสาวไปยังกลุ่มนายหน้าและผู้นำพาชาวโรฮิงยามาอยู่ที่แคมป์แห่งนี้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเผยว่า ขณะนี้พอทราบตัวกลุ่มนายหน้าและผู้นำพาแล้วซึ่งมีอยู่ 3-4 คน แต่ยังขาดพยานและหลักฐานที่จะเชื่อมโยงไปถึง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การออกหมายจับ และเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่มีการจับกุมชาวโรฮิงยาในพื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ไปเรียกค่าไถ่

 

คืบโรฮิงยาสงขลาพบแล้ว26ศพเสียชีวิต1-2ด.

ความคืบหน้าการขุดหาศพชาวโรฮิงญาที่ถูกฝังอยู่ในสุสานบนยอดเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากที่ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมทีมแพทย์นิติเวชน์โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พร้อมหน่วยกู้ภัยนับร้อยนาย ใช้เวลาขุดหลุมศพและเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ร่วม 4 ชั่วโมง ปรากฏว่าพบศพทั้งหมด 26 ศพ เป็นชาย 25 รายและหญิง 1 ราย ซึ่งศพส่วนใหญ่อยู่ในสภาพหนังหุ้มกระดูก และเริ่มเน่าเปื่อยคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วอย่างน้อย1-2 เดือน เบื้องต้นทางทีมแพทย์นิติเวชน์ได้ทำการชันสูตรและตรวจเอกลักษณ์บุคคลพร้อมทำสัญลักษณ์แต่ละศพเอาไว้ เพื่อรอการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยศพทั้งหมดเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลำเลียงลงจากเขาและส่งไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 1 รายและอีกบางส่วนจะนำไปฝังไว้ที่สุสานบ้านพรุ อ.หาดใหญ่ เพื่อรอการชันสูตรและตรวจดีเอ็นเอ รวมศพที่ถูกฟังอยู่ในสุสานแห่งนี้ทั้งหมด 30 ราย จากในวันแรกที่ขุดพบไปแล้ว 4 ราย


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook