ดีเอสไอเตือนชาวเน็ต!! ระวังติดอีเมล์ไวรัสเรียกค่าไถ่

ดีเอสไอเตือนชาวเน็ต!! ระวังติดอีเมล์ไวรัสเรียกค่าไถ่

ดีเอสไอเตือนชาวเน็ต!! ระวังติดอีเมล์ไวรัสเรียกค่าไถ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน ผู้บัญชาการสำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ (สทศ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีที่ สทศ. มีหนังสือแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ภายในดีเอสไอเรื่องการเปิดอ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 29 เม.ย. 2558 ซึ่งเป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดใหม่ที่ส่งผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล์ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยเมื่อช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ระบบของ สทศ. สามารถกรองอีเมล์ และลบอีเมล์ไวรัสดังกล่าวได้ประมาณ 82 รายการ ซึ่งอีเมล์เหล่านี้ถูกส่งมาจากหลายเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และส่งกลับทุก อีเมล์ เซิฟเวอร์ ในประเทศไทย ซึ่งเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งสภาพปัญหาดังกล่าวจากผู้ให้บริการของหน่วยงานต่างๆ จำนวนมาก

พ.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า สำหรับอีเมล์ไวรัสดังกล่าว จะมีลักษณะพฤติกรรม คือ ส่งอีเมล์ให้กับเป้าหมายพร้อมแนบไฟล์ Attachment โดยไฟล์ที่แนบจะเป็นไฟล์นามสกุล เช่น .pdf, .xls, .ppt, .txt และ .doc เป็นต้น ซึ่งนามสกุลไฟล์ดังกล่าวเป็นแหล่งเก็บข้อมูลที่สำคัญ โดยหัวข้อการส่งอีเมล์จะมีคำว่า account หรือ suspended หรือ locked ซึ่งเป็นหัวข้อที่มีความเกี่ยวข้องด้านการเงิน การสั่งซื้อสินค้า หรือบัญชีธนาคาร พร้อมระบุเนื้อหาของอีเมล์ว่าขอให้เปิดไฟล์ที่แนบ ซึ่งหากเปิดไฟล์จะทำให้ติดมัลแวร์หรือไวรัสทันที โดยเป็นไวรัสที่มีจุดประสงค์ในการเข้ารหัสลับไฟล์เอกสารประเภทต่างๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงเอกสารที่แชร์ผ่านเครือข่ายและจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วย

จากนั้นเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัสนี้แล้วจะทำให้ไม่สามารถเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และค้นหาไฟล์ต่างๆได้ โดยผู้ที่ถูกติดตั้งไวรัสชนิดนี้จะเหมือนถูกเรียกค่าไถ่ โดยต้องจ่ายเงินเป็นสกุลเงินบิทคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินในระบบดิจิตอล คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 20,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของอีเมล์ที่ส่งมาให้ ทำการส่งรหัสสำหรับถอดข้อมูล

พ.ต.ท.มนตรี ยังกล่าวต่อว่า ไวรัสทางอีเมล์ชนิดนี้ถือเป็นอาชญากรรมอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งหากประชาชนหลงเชื่อและเปิดไฟล์ดังกล่าวก็จะทำให้ถูกลอกโอนเงินไปให้ เพื่อแลกกับการนำข้อมูลในคอมพิวเตอร์กลับคืนมา อย่างไรก็ตาม หลังจากมีไวรัสชนิดนี้เข้ามายังดีเอสไอ ได้มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอพบปัญหาดังกล่าวแล้ว 2-3 ราย แต่ไม่ได้หลงเชื่อและโอนเงินไปให้กับผู้ที่ส่งอีเมล์มา

ซึ่งทาง สทศ. ได้แก้ปัญหาด้วยการยอมเสียข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวไป เนื่องจากต้องทำการล้างข้อมูลในเครื่องทั้งหมด ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังและไม่ควรเปิดอีเมล์ที่มีการส่งมาจากบุคคลที่ไม่รู้จัก พร้อมกับให้ลบอีเมล์นั้นทิ้งไป เพราะอาจทำให้ถูกไวรัสชนิดนี้ได้

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook