ผบ.ตร.บอก นายกฯ ไม่กดดันคดีโรฮิงยา

ผบ.ตร.บอก นายกฯ ไม่กดดันคดีโรฮิงยา แต่ให้ทำอย่างรอบคอบ - สั่งภาค 9 ประสาน ตชด.ออกลาดตระเวนทุกจุด

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจ แถลงผลการประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีพบศพชาวโรฮิงยาบนเทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จำนวนมาก โดยได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 3 รายที่จับกุมตัวได้ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแลสถานกักกัน และส่งทะเบียนมาร่วมแถลงข่าวด้วย พร้อมระบุว่า ขณะนี้ศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 8 ราย จับกุมตัวได้ 4 ราย และยังมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับอีกหลายราย  

นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายผลไปยังแคมป์อื่น ๆ บนเทือกเขาหลังมีพยานให้การว่ายังมีค่ายกักกันในลักษณะเดียวกันอีก 2-3 แคมป์ ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 9 ประสานกับตำรวจตระเวนชายแดน ออกลาดตระเวนบนเทือกเขาทุกจุดต้องสงสัย พร้อมยืนยันว่า ไม่ว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงหรือมีอิทธิพลมากเพียงใด หากตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินเอาผิดโดยไม่ละเว้น ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลของเครือข่ายดังกล่าวทั้งหมดแล้ว

ส่วนกรณีที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบกและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเป็นห่วงเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศยุติการค้นหานั้น ยืนยันว่าไม่ได้ยุติการค้นหา หากมีเบาะแสเพิ่มเติมก็ต้องมีการตรวจสอบและขยายผลต่อไป โดยในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.อุดมเดช แจ้งว่าจะเดินทางมาประชุมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อติดตามผลการสืบสวนด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ไม่ได้กดดันการทำงานของตำรวจ แต่กำชับให้ทำงานให้รอบคอบ รัดกุม ซึ่งที่ผ่านมามีการรายงานผลการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีรับทราบทั้งในทางตรงและทางลับ

ส่วนกรณีทางสหประชาชาติ หรือ UN ขอเข้ามาร่วมสอบสวนด้วยนั้น ต้องประสานหรือร้องขอผ่านทางรัฐบาล ตนเองไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว